ซุปเปอร์ฟู้ด Superfoods คืออะไร ทำไมถึงเป็นสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง

• Facebook
• Twitter
• Line

รู้จัก ซุปเปอร์ฟู้ด Superfood ยอดอาหารแห่งอนาคตกว่า 100ชนิด มีอะไรบ้าง?

Advertisement

ในบลอคนี้ Healthplatz จะมาบอกว่า อาหารแบบไหนกันที่นับเป็น ซุปเปอร์ฟู้ดหรือ ซูเปอร์ฟู้ด (Superfoods) ได้บ้าง พร้อมทั้งตัวอย่างสุดยอดอาหารที่ทั่วโลกให้การยอมรับจัดว่าเป็นซุปเปอร์ฟู้ดตัวจริง ประโยชน์ที่จะได้รับจากการทาน รวมทั้งเทคนิคในการทานซุปเปอร์ฟู้ดเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน

 

รู้จัก ‘ซุปเปอร์ฟู้ด (Superfoods)’

ซุปเปอร์ฟู้ด (Superfoods) คือ อาหารที่มีสารอาหารหลากหลายเข้มข้นในปริมาณมากให้ประโยชน์ด้านสุขภาพแต่ปริมาณแคลอรี่ต่ำ รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) มีพฤกษเคมี (phytonutrients) สารในพืชที่ให้สีสรรและกลิ่นหอมซึ่งมาพร้อมประโยชน์ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลายชนิด อาทิ มะเร็ง โรคจากการอักเสบเรื้อรังหลายอย่าง Superfood บางชนิดยังมีไขมันดีที่ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจ มีใยอาหาร(fiber) ที่ช่วยป้องกันโรคเบาหวานและโรคในระบบทางเดินอาหาร

แน่นอนว่าการทานอาหารที่เปี่ยมด้วยคุณค่าโภชนาการเป็นเรื่องดี แต่การทานอาหารที่ดีให้หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า ไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งที่จะให้สารอาหารต่อร่างกายได้ครบ หรือป้องกันโรคได้ครอบจักรวาล ดังนั้น การเลือกสรรอาหาร จับคู่ สลับหมุนเวียนให้หลากหลายทั้ง 5 หมู่ในปริมาณแคลอรี่ที่เพียงพอต่อร่างกายจึงดีที่สุด

คุณสมบัติโดดเด่นของอาหารที่เรียกว่าเป็น ซุปเปอร์ฟู้ด

จุดเด่นของสุดยอดอาหารที่เหนือกว่าอาหารทั่วไปคือ ‘ทานน้อยแต่ได้มาก’ หมายความว่าเมื่อเทียบแคลอรี่ต่อแคลอรี่ระหว่างซุปเปอร์ฟู้ดและอาหารทั่วไปแล้ว เราจะได้รับปริมาณกับชนิดของสารอาหารที่ดีมีประโยชน์จากการกินอาหารประเภทซุปเปอร์ฟู้ดมากกว่าเมื่อทานอาหารทั่วไป (ซึ่งให้แคลอรี่หรือพลังงานเยอะแต่ให้สารอาหารน้อยกว่า)

เช่น การช่วยต่อต้านภาวะเครียดออกซิเดชั่น – oxidative stress (คือภาวะจากความไม่สมดุลระหว่างอนุมูลอิสระกับระบบต้านออกซิเดชั่นในร่างกาย ส่งผลให้ดีเอ็นเอ โปรตีน ไขมัน ถูกทำลายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นนี้) ลดการอักเสบในร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ให้พลังงานกับร่างกาย สนับสนุนการทำงานของตับ และช่วยกำจัดของเสียและสารพิษในร่างกาย (detoxification)

อนุมูลอิสระ (Free radicals) คือ ตัวการสำคัญที่ทำให้สุขภาพของคนอ่อนแอลงภูมิต้านทานแย่ลงทำให้ร่างกายเกิดภาวะติดเชื้อได้ง่ายได้ อนุมูลอิสระ เกิดได้จากหลายสาเหตุเช่น พฤติกรรมการทานอาหารบางอย่าง เป็นผลพลอยได้ที่เกิดจากการที่ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลเพื่อใช้เป็นพลังงาน หรือการออกกำลังกาย การรับรังสี UV มลภาวะ สารเคมี การสูบบุหรี่ ยารักษาโรคบางชนิด

Advertisement

อนุมูลอิสระ สามารถทำลายเนื้อเยื่อและในระยะยาวมีผลต่อความเสื่อมหรือการแก่ของเซลล์ ทั้งยังอาจเป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้น

ประโยชน์ของ ซุปเปอร์ฟู้ด หลักๆคืออาหารที่มีสารต้านนุมูลอิสระสูงเข้าไปจะช่วยบรรเทาหรือลดผลจากการทำร้ายของอนุมูลอิสระต่อเซลล์ในร่างกายได้ซึ่ง ส่งผลให้ช่วยป้องกันโรค:

• โรคหัวใจและหลอดเลือด
• โรคมะเร็ง
• โรคข้ออักเสบ (arthritis)
• โรคหลอดเลือดสมอง (stroke)
• โรคระบบหายใจ (respiratory diseases)
• ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (immunodeficiency)
• โรคถุงลมปอดโป่งพอง (emphysema)
• โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)

การจะทานซุปเปอร์ฟู้ด ให้ได้ผลช่วยป้องกันโรค ชะลอวัย รักษารูปร่างไม่ใช่เรื่องเกินจริง แต่คนส่วนใหญ่มักคาดหวังไว้สูงเมื่อทานซุปเปอร์ฟู้ดเพียงไม่กี่ครั้งเพิ่มจากอาหารที่ไม่ได้คุณภาพ การทานอาหารแบบนี้ไม่สามารถช่วยรักษาสุขภาพป้องกันโรคได้ระยะยาว

การทานซุปเปอร์ฟู้ด ให้ได้ผลมากที่สุดคือการทานเป็นประจำ หลายชนิดสับเปลี่ยนกันไปร่วมกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพอื่นๆซึ่งสมดุลและพอเหมาะกับความต้องการของร่างกายมากกว่าการเน้นทานสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงไม่กี่อย่างแล้วหวังผลชั่วข้ามคืน

มีการศึกษามากมายพบว่า การทานอาหารแบบแพลนท์เบส (plant-based diet) และอาหารแบบเมดิเตอเรเนียน (Mediterranean diet) ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในการลดความเสี่ยงการเป็นโรคเรื้อรังหลายชนิดโดยเฉพาะ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และมะเร็งบางชนิด

ซุปเปอร์ฟู้ด(Superfoods) กว่า 100ชนิดมีอะไรบ้าง

บลอคนี้จะยกตัวอย่าง สุดยอดซุปเปอร์ฟู้ดว่ามีอะไรบ้าง ทั้งแบบผัก ผลไม้ ถั่ว ฯลฯ ไว้ให้ลองนำไปใช้ทานในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งสุดยอดผักผลไม้เหล่านี้ไม่ได้จำกัดแค่ที่เอ่ยชื่อในบลอคนี้เท่านั้นนะคะ ผักผลไม้ พืชพื้นบ้านของไทยหลายๆอย่างก็นับว่าเป็น ซุปเปอร์ฟู้ดที่มีคุณค่าสารอาหารมากมายเช่นกัน เพียงแต่อาจจะยังไม่มีงานวิจัยพิสูจน์ถึงสรรพคุณแพร่หลายเท่าของต่างชาติ

หัวใจของการทานอาหารให้ดีต่อสุขภาพอีกข้อที่นอกจากการเลือกชนิดอาหารให้ได้วิตามิน สารอาหารในตัวมาก ก็คือ การทานอาหารให้หลากหลาย สลับสับเปลี่ยนกันเพื่อให้ร่างกายไม่ได้รับอะไรมากไปหรือขาดไป ควรต้องเป็นอาหารที่สด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษหรือออร์แกนิคก็จะดีที่สุด

Advertisement

1. ผักใบเขียว

กลุ่มผักใบเขียวเข้มเป็นแหล่งวิตามิน A, C และแคลเซียม รวมทั้งสารพฤกษเคมีจากธรรมชาติที่ดีเยี่ยมต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีใยอาหารที่ช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

• ผักโขม
• เคล (kale) (อ่านรายละเอียดคลิ๊กที่นี่)
• กวางตุ้ง
• คื่นฉ่าย (celery)
• ผักสลัดร็อคเก็ต (rucula)
• ปวยเล้ง
• สวิสชาร์ด (Swiss chard)
• ผักคะน้าฝรั่ง (Collard greens)
• เทอร์นิพ (Turnip greens)
• บรอคโคลี
• บรัสเซลส์สเปราท์ (Brussels sprouts)

เมนูจากผักเหล่านี้ก็ไม่ยากเลยค่ะ สามารถทำสลัดทานสดๆ ผัดน้ำมันมะกอก หรือใส่ในสุกี้ ชาบู ซุป แกงจืด สตูว์ต่างๆ

Advertisement

2. ผลไม้

ตระกูลเบอร์รี่ เบอร์รี่ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งยอดอาหารที่อร่อยทานง่าย น้ำตาลน้อย โลว์คาร์บแต่ไฟเบอร์หรือใยอาหารสูงที่มีทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ สุดยอดผลไม้ หรือ ซุปเปอร์เบอร์รี่ที่ควรค่าแก่การทานประจำเหล่านี้ได้แก่

• อาซาอิเบอร์รี่ (อ่านรายละเอียดคลิ๊กที่นี่)
• มากี้เบอร์รี่ (อ่านรายละเอียดคลิ๊กที่นี่)
• บลูเบอร์รี่
• สตรอเบอร์รี่
• ราสเบอร์รี่
• สตรอเบอร์รี่
• โกจิเบอร์รี่หรือเกากี้
• แครนเบอร์รี่
• แบลคเบอร์รี่ เป็นต้น

ปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงในผลไม้ประเภทเบอร์รี่ เชื่อมโยงกับความเสี่ยงโรคหัวใจที่ลดลง ต้านมะเร็งบางชนิดรวมทั้งช่วยลดการอักเสบของร่างกาย นอกจากนี้ การทานเบอร์รี่เป็นประจำยังช่วยให้โรคเกี่ยวกับระบบย่อยดูดซึมอาหาร และโรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันดีขึ้นเมื่อควบคู่กับการรักษาในทางการแพทย์ปัจจุบัน

โดยเฉพาะบลูเบอร์รี่ อาซาอิเบอร์รี่ และมากี้เบอร์รี่ มีปริมาณความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ แอนโธไซยานิน(anthocyanin) อยู่สูงมากซึ่งจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวฉกาจที่ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน โรคหัวใจ อัลไซเมอร์ ได้ด้วย (ข้อมูลตีพิมพ์ใน Advances in Nutrition ปี 2019)

สามารถทานเบอร์รี่เป็นอาหารเช้า ของว่าง สลัด สมูทตี้ หรือนำมาปั่นรวมกับผักผลไม้อื่นๆได้รสชาติที่หลากหลายกับประโยชน์ที่เต็มเปี่ยม เลือกทานแบบผงฟรีซดรายก็ได้ประโยชน์เหมือนทานผลสดแต่สามารถเก็บไว้ได้นานกว่าและสะดวกเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคปัจจุบัน

ผลไม้ประเภทอื่นๆ ที่มีประโยชน์ไม่แพ้กันก็อย่างเช่น

• อะโวคาโด
• มะเขือเทศ

ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น

• มะนาว / เลมอน
• ส้ม
• ทับทิม
• กีวี
• เสาวรส

Advertisement

3. ถั่วเปลือกแข็ง และเมล็ดพืช (Nuts and seeds)

ซุปเปอร์ฟู้ดกลุ่มนี้เต็มเปี่ยมด้วยใยอาหาร โปรตีนจากพืช และไขมันชนิดที่ดีต่อหัวใจ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์จากภาวะเครียดออกซิเดชั่น (Oxidative stress) งานวิจัยหลายชิ้นยังบ่งบอกว่าการกินถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืชสามารถป้องกันโรคหัวใจได้

แม้ว่าซุปเปอร์ฟู้ดในกลุ่มนี้จะให้พลังงานค่อนข้างสูง แต่กลับมีการศึกษายืนยันว่าช่วยทำให้ลดน้ำหนักได้เมื่อทานกับอาหารแบบบาลานซ์ไดเอท สุดยอดอาหารในกลุ่มนี้ได้แก่

ถั่วเปลือกแข็ง

• อัลมอนด์
• วอลนัท
• พิสตาชิโอ
• พีแคน
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์
• แมคคาเดเมีย
• บราซิลนัท
• ถั่วลิสงซึ่งจริงๆจัดอยู่ในกลุ่มถั่วตระกูลฝัก (legume) 

เมล็ดพืช ได้แก่

• เมล็ดดอกทานตะวัน
• เมล็ดฟักทอง
• เมล็ดเจีย chia seeds
• เมล็ดแฟลกซ์ flaxseeds
• เมล็ดเฮมพ์ hemp seeds

Advertisement

4. ถั่วตระกูลฝัก (Legumes)

หรือพืชตระกูลถั่ว (Legumes) ได้รับการยอมรับเช่นกันว่าเป็น ซุปเปอร์ฟู้ดเพราะความสามารถที่อาจช่วยป้องกันและบรรเทาโรคหลายชนิด เนื่องจากพืชกลุ่มนี้มีวิตามิน B แร่ธาตุ โฟเลต โปรตีนและใยอาหารสูง โดยช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ ช่วยลดความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล

• ถั่วเหลือง (soy bean) งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า ถั่วเหลืองช่วยลดคอเลสเตอรอลเลวหรือ low-density lipoprotein (LDL)ในเลือดได้ รวมทั้งอาจช่วยป้องกันการเกิดความจำเสื่อมเนื่องจากมี ไอโซฟลาโวน (isoflavones) ที่ยังมีประโยชน์ช่วยป้องกันการลดลงของมวลกระดูก เพิ่มความแข็งแรงมวลกระดูกช่วงเข้าสู่วัยทอง และยังลดอาการวัยทองได้อีกด้วย
• ถั่วดำ
• ถั่วแดง (kidney bean)
• ถั่วลันเตา (pea)
• ถั่วลูกไก่ (chick pea)
• เลนทิล (lentil)
• ถั่วลิสง (peanut)
• อัลฟาฟา (alfalfa)

การทานพืชกลุ่มนี้เป็นประจำช่วยให้น้ำหนักร่างกายสมดุลเนื่องจาก อาหารประเภทนี้ทำให้อื่มเร็วและอิ่มทนแถมยังเป็นอาหารชั้นดีให้แบคทีเรียในลำไส้ช่วยให้ลำไส้สุขภาพดี ที่สำคัญยังนับเป็นแหล่งโปรตีนทดแทนจากพืชสำหรับคนที่ทานวีแกนและมังสวิรัติที่ขาดไม่ได้

 

5. ปลาและอาหารทะเล (Fish and seafood)

ปลาทะเลและอาหารทะเลบางชนิดให้โปรตีนชั้นดีกับร่างกายรวมทั้งกรดไขมันดี โอเมก้า-3 (omega-3 fatty acids) ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจ ปลาเหล่านี้ได้แก่

• แซลมอน
• ทูน่า
• แมคเคอเรล
• เทร้าท์
• เฮอร์ริ่ง
• แอนโชวี
• ซาร์ดีน เป็นต้น

เนื้อปลาแตกต่างจากเนื้อสัตว์อื่นๆที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเช่นใน เนื้อแดง เนื้อที่ผ่านการแปรรูปต่างๆซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ ในขณะที่ปลาให้โปรตีนชนิดลีน รวมทั้งบางชนิดยังเต็มไปด้วยกรดไขมันดี โอเมก้า-3 (omega-3 fatty acids) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจแล้วยังช่วยลดอาหารซึมเศร้า จำเป็นต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ซึ่งจัดเป็นซุปเปอร์ฟู้ดที่คนท้องควรทานสม่ำเสมอ

โดยทั่วไปควรเลือกทานปลาทะเลและอาหารทะเลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ปลอดภัยไร้สารตกค้างไร้สารปรอท (mercury) อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 มื้อ

สาหร่ายทะเล

จัดเป็นพืชแห่งท้องทะเลที่เต็มเปี่ยมด้วยสารอาหารที่ดีเยี่ยมต่อร่างกาย การทานสาหร่ายทะเลอย่าง

• สไปรูลิน่า (อ่านรายละเอียดคลิ๊กที่นี่)
• วากาเมะ
• คอมบุ
• เคลป์
• คลอเรลล่า

ก็ดีต่อสุขภาพอย่างมาก ให้โปรตีนสูงรวมทั้งโอเมก้า-3เช่นกัน ถือว่าปลอดภัยกว่าทานปลาจากฟาร์ม เพราะสาหร่ายทะเลยังมีคุณสมบัติช่วยร่างกายขจัดสารพิษ ดีทอกซ์ มีวิตามินเค โฟเลต ไอโอดีน และใยอาหารที่ช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยลดน้ำหนักและป้องกันโรคหลายชนิด

Advertisement

6. ธัญพืชเต็มเมล็ด (Whole grains) 

แหล่งใยอาหารสำคัญของมนุษย์มาเป็นพันๆปี ธัญพืชยังให้วิตามินบี แร่ธาตุ ไฟโตนิวเทรียนท์ (phytonutrients) ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและเบาหวาน  อาหารกลุ่มนี้ควรเลือกเป็นธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ขัดสี ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป ไม่ผสมน้ำตาล เช่น

• โอ๊ต
• คีนัว (quinoa)
• บัควีต (buckwheat)
• บัลการ์(bulgur)
• ข้าวกล้อง
• ข้าวไรซ์เบอร์รี่
• ขนมปังที่ทำจากแป้งโฮลวีต
• งาดำ งาขาว

ปัจจุบันมีสินค้าประเภทนี้ขายจำนวนมากแต่ดีที่สุดคือ เมล็ดและธัญพืชที่ไม่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม หรือ GMO และไม่ขัดสี เช่นเลือกทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว เนื่องจากข้าวกล้องที่ไม่ผ่านการขัดสียังมีสารอาหาร วิตามิน กรดฟีโนลิค(phenolic acids) และใยอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายอยู่มาก จัดเป็น superfood ที่คนท้องทานได้ช่วยลดความเสี่ยงเบาหวาน

Advertisement

7. ซุปเปอร์ฟู้ดลดน้ำหนัก ดีต่อสุขภาพประเภทอื่นๆ 

เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันแฟลกซ์ สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลไขมันเลวในร่างกายได้

• คาเคา(เมล็ดของต้นคาเคา) หรือดาร์คช็อคโกแลต

เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หรือแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่มีบทบาทช่วยป้องกันมะเร็ง ดีต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ สามารถช่วยการลดน้ำหนักได้  ใน Journal of Neuroscience ปี 2016 บอกว่าการทานคาเคาหรือ ดาร์คชอคโกแลต(ความเข้มข้น 70% อย่างต่ำ) 30-60 กรัม อาจช่วยส่งเสริมความจำ การเรียนรู้ ป้องกันความจำเสื่อม ช่วยให้อารมณ์ดี ลดอาการซึมเศร้า

• โยเกิร์ต คีเฟอร์ คอมบูชะ อาหารหมักดอง

อาหารหมักดอง (ที่ถูกสุขลักษณะ) เช่น กิมจิ คอมบูชา(kombucha) คีเฟอร์(kefir) มิโซะ เซาวเออเคร้าท์(sauerkraut) โยเกิร์ต เหล่านี้มีโปรไบโอติกส์(อ่านรายละเอียดคลิ๊กที่นี่) ที่ดีต่อร่างกายและระบบย่อยอาหารของเรา ซึ่งก็คือเจ้าแบคทีเรียชนิดดีจำนวนหลายล้านตัวที่รวมกลุ่มกันเป็นชุมชนจุลชีพหรือ ไมโครไบโอม(microbiome) ซึ่งอยู่ตามลำไส้ของเราทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ

แบคทีเรียที่มีชีวิตเหล่านี้ เช่นในโยเกิร์ตสามารถช่วยลดความเสี่ยงภาวะอักเสบเรื้อรังอย่าง ลำไส้อักเสบ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis)

Advertisement

8. ซุปเปอร์ฟู้ดที่หาง่ายในไทย 

ในไทยก็มีพืชหลายชนิดที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายสมควรได้ฉายาซุปเปอร์ฟู้ดหลายอย่าง เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ น้ำมันมะพร้าว ขิง มันหวาน บีทรูท เห็ดต่างๆ งาดำ มะระขี้นก มะรุม(moringa)  กัญชง(hemp) ขมิ้น ซินนามอนหรืออบเชย (Cinnamon) กระเจี๊ยบ (Okra) ใบบัวบก (Gotu Kola) รวมทั้งอาหารบ้านๆทานได้ทุกวันอย่างไข่

• ไข่

ไข่ไก่เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันมากเนื่องจากไข่ไก่มีคอเลสเตอรอลสูง แต่ด้วยสารอาหารอื่นๆอัดแน่นในไข่ใบเล็กๆได้แก่ โปรตีน กลุ่มวิตามินบี โคลีน (choline) เซเลเนียม (selenium) วิตามินเอ ธาตุเหล็กและฟอสฟอรัส ทำให้ไข่จัดเป็นอาหารที่เฮลตี้ที่สุดชนิดหนึ่ง

ไข่ยังประกอบด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์อีกสองชนิดคือ ซีแซนทิน (zeaxanthin) และลูทีน (lutein) ที่ช่วยปกป้องจอตาและบำรุงสายตา แม้ว่าหลายคนจะกังวลกับปริมาณคอเลสเตอรอลในไข่แต่งานวิจัยพับว่าการทานไข่ 6-12 ฟองต่อสัปดาห์ไม่มีทำให้ความเสี่ยงโรคหัวใจและเบาหวานเพิ่มขึ้น ดังนั้นคนที่ชอบกินไข่(และคอเลสเตอรอลปกติ) สามารถจัดได้เลยวันละฟองสบายๆ

• กระเทียม หัวหอม หอมแดง  พริก

มื้อไหนไม่มีอาหารเหล่านี้มื้อนั้นก็อาจจืดชืด ไร้รสชาติเลยทีเดียว อาหารคู่ครัวไทยอย่างกระเทียม หัวหอม ขิง พริก ล้วนมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านแบคทีเรียบางชนิด

สารประกอบธรรมชาติในอาหารกลุ่มนี้อาจช่วยป้องกันร่างกายจากมะเร็ง กระเทียมดีอย่างมากต่อคนที่เป็นเบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง

• ขิง

นับเป็นเครื่องเทศที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุดชนิดหนึ่งในโลก เป็นญาติกับขมิ้นชัน(turmeric) กระวาน(cardamom) และข่า(galangal) เปี่ยมด้วยสารอาหารธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพต่อระบบภูมิคุ้มกัน สมอง และหลายอวัยวะในร่างกาย ขิงถูกใช้เป็นยาทั้งในศาสตร์การแพทย์โบราณและปัจจุบันช่วยเรื่องการย่อยอาหาร ลดอาการคลื่นไส้ ต้านอาการไข้หวัด ลดการอักเสบ ลดการติดเชื้อของร่างกาย

กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของขิงมาจากน้ำมันธรรมชาติที่ชื่อว่า จิงเจอรอล (gingerol) ซึ่งยังมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำหนัก ลดการอักเสบของข้อต่อ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอล ลดอาการปวดประจำเดือน มีการศึกษาพบว่า การทานขิงดิบต่อเนื่อง 28 วัน ช่วยลดภาวะเริ่มต้นสู่มะเร็งลำไส้(Colorectal cancer) อีกทั้งมะเร็งอื่นได้อีกด้วย

• มันหวาน บีทรูท แครอท

พืชหัวเหล่านี้อยู่คู่มนุษย์มาเป็นร้อยปี เนื่องจากปลูกง่ายเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน เต็มเปี่ยมด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานร่างกายดีเยี่ยม มันหวาน แครอท และบีทรูท อาจช่วยป้องกันโรคเบาหวาน โรคอ้วน มะเร็งเนื่องจากคุณสมบัติที่ลดการอักเสบ ลดอนุมูลอิสระ และต่อต้านแบคทีเรีย

• ชา

ชา (ไม่ผสมนมน้ำตาลนะ) มีแคลอรี่ต่ำ ช่วยให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้น และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย

คาเตชิน (Catechins) แอนตี้ออกซิแดนท์ที่ประสิทธิภาพสูงพบมากในชาเขียว ซึ่งมีคุณสมบัติลดการอักเสบและยังช่วยต้านมะเร็ง นอกจากนี้การดื่มชา ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว ชาขาว ช่วยลดความเครียด ลดความอยากอาหารและชาบางชนิดยังช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายได้อีกด้วย

Advertisement

 

ผง Superfood คืออะไร ควรทานมั้ย

ผงซูปเปอร์ฟู้ดถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้การเริ่มทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเรียกว่า ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก เป็นเรื่องที่ง่ายเริ่มต้นได้ทันที ซึ่งในปัจจุบันก็มีตัวเลือกหลากหลายตามความต้องการที่จะเน้นบำรุง ดูแลสุขภาพด้านไหน ช่วยแก้ปัญหาคนที่ไม่ชอบทานผักผลไม้ หรือทานได้ไม่เพียงพอต่อวันให้ร่างกายได้สมดุลด้านสารอาหารมากขึ้น

โดยเราสามารถเติมสารอาหารให้การทานในชีวิตประจำวันของเราหลากหลายและดีต่อสุขภาพมากขึ้นผ่านผงซุปเปอร์ฟู้ด เพราะชีวิตที่ต้องทำงานเป็นส่วนมากทำให้การเตรียมอาหารทานเองเป็นเรื่องยุ่งยากเสียเวลา ปัจจุบันจึงมีทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการเติมสารอาหาร วิตามิน จากซุปเปอร์ฟู้ดได้ง่ายขึ้นในทุกวันเพื่อรับประโยชน์ ป้องกันโรคเรื้อรังบางชนิดตามที่มีงานวิจัยศึกษารับรอง

ผงซุปเปอร์ฟู้ดจึงเกิดขึ้นเพื่อนำเอา พืชผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาทำให้เป็นผงหรือรูปแบบพร้อมทานเพื่อสะดวกต่อการพกพา และผสมลงในอาหารได้ง่ายกว่าเดิม เช่น สลัด นม โยเกิร์ต ชา น้ำผลไม้ ซุป เป็นต้นโดยเฉพาะ ถ้าเราทานอาหารซ้ำๆทุกวัน ทานใยอาหารไม่เพียงพอ ทานผักผลไม้น้อยไป หรือโปรตีนน้อยไป

การผสมผงซุปเปอร์ฟู้ดลงในอาหารเพิ่มจากปกติก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้เราดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้นและรสชาติถูกปาก ไม่ต้องเสียเวลาไปตลาดซื้อผักเป็นกิโลหรือตระเตรียมให้ยุ่งยาก

Superfoods ยี่ห้อไหนดี วิธีเลือก

ซุปเปอร์ฟู้ดเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยสารอาหารวิตามิน ใยอาหาร ซึ่งเราย่อมต้องการให้สิ่งดีๆเหล่านี้คงอยู่ในผงซุปเปอร์ฟู้ดที่เราบริโภคประจำให้มากที่สุด จึงควรเลือกแบบที่ปลูก ผลิตแบบออร์แกนิคแท้ 100% มีกระบวนการที่ไม่ซับซ้อนสอดคล้องเป็นธรรมชาติ อย่างแบบผง 

ถ้าคุณรักสุขภาพแน่นอนว่าย่อมไม่ต้องการให้อาหารของคุณปนเปื้อนจากสารเคมี สารสังเคราะห์หรือสารปรุงแต่งใดๆ จึงควรเลือกแบบที่ธรรมชาติมากที่สุด ผ่านกระบวนการผลิตน้อยที่สุด เช่น แบบผง แบบฟรีซดราย (เทคโนโลยีที่แช่แข็งผลิตผลธรรมชาติอย่างรวดเร็วเพื่อคงคุณค่าสารอาหารไว้มากที่สุด) หรือแบบแคปซูล ที่สำคัญควรได้รับตรารับรองมาตรฐานการผลิต เช่น ตราออร์แกนิค USDA, EU, Soil Association, GMP หรือมีเลข อย.เป็นต้น 

ซึ่งตามมาตรฐานที่เราได้กล่าวไปมีหลายแบรนด์ในตลาดที่ทำได้ดีมีมาตรฐาน หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ TREASURE Superfoods ซึ่งเป็นแบรนด์ของเราเองนำเข้าซุปเปอร์ฟู้ดคุณภาพยอดเยี่ยมที่สุด จากแหล่งปลูกตามธรรมชาติที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารอาหารอันเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคคัดสรรมาจากทั่วมุมโลก ผ่านกระบวนการปลูก ผลิตแบบออร์แกนิคทุกขั้นตอน ผ่านการตรวจสอบจากห้องทดลองชั้นนำให้ข้อมูลอย่างละเอียดแสดงถึงความจริงใจและโปร่งใสจนได้รับตรารับรองจากสหภาพยุโรป 

นอกจากนี้เลือกผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์มิดชิด ไม่โดนแสง แห้งไม่อับชื้น เพราะสารอาหารตามธรรมชาติสามารถสลายไปได้จากแสงแดดหรือความชื้นจึงไม่ควรเลือกซื้อซุปเปอร์ฟู้ดในถุงหรือกระปุกใส ในบรรจุภัณฑ์พลาสติดที่ด้อยคุณภาพ เพราะคุณอาจจ่ายแพงกว่าสำหรับสิ่งที่เสื่อมคุณภาพไปแล้ว

 

ด้วยรักและห่วงใยอยากให้คุณสุขภาพดีและออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่ค่ะ

—————-

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก

Health.Harvard.Edu

Medical News Today

LifeScience.com

Truehealthmagazine.co.uk

The Harvard T.H. Chan School of Public Health.

• Facebook
• Twitter
• Line