กว่าจะบ่มเพาะความรักให้งอกงาม จนถึงวันที่ชายหนุ่มสุดที่รักคุกเข่าลงตรงหน้า พร้อมแหวนแทนใจขอคุณ แต่งงาน แน่นอนว่าสำหรับหลายคู่ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องฝ่าฟันพิสูจน์ความรักกันมาหลายด่าน แล้วฤกษ์แต่งงานก็กำลังใกล้เข้ามา คุณกำลังวุ่นกับการเตรียมงานแต่งงาน แต่อย่าลืมค่ะว่าสิ่งสำคัญที่สุดในวันสำคัญ wedding day ของคุณก็คือ การเป็นเจ้าสาวแสนสวยหมดจดทั้งใบหน้าและผิวกายเคียงข้างคู่ชีวิตคุณ ผ่านพิธีการต่างๆ ร่วมฉลองกับครอบครัว เพื่อนฝูง และถ่ายรูปเก็บช่วงเวลาพิเศษอย่างไร้กังวล บลอคนี้ Healthplatz จะมาแชร์คู่มือ ดูแลผิว หน้าเรียวเพื่องานแต่ง เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว 6เดือนล่วงหน้าแบบละเอียดยิบที่รับรองว่าถ้าทำตามคุณจะต้องได้เป็นเจ้าสาวที่สวยสะพรึงในวันแต่งแน่นอน!
วิธี ดูแลผิว เทคนิคหน้าเรียวเพื่องานแต่ง คู่มือเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวให้คุณสวยสะพรึงหัวจรดเท้า
เรื่องอื่นยังจ้างออแกไนเซอร์ หรือให้ครอบครัว เพื่อนๆช่วยได้ แต่เรื่องผิวกาย และความหน้าเรียวมีแต่คุณเท่านั้นที่จะเนรมิตได้ ยินดีด้วยที่คุณหาบลอคนี้เจอค่ะ เราทำการรวบรวมเทคนิค ขั้นตอน ดูแลผิว หน้าเรียวเพื่องานแต่ง มาให้แบบครบสุด ละเอียดสุดแบบไม่ต้องไม่ถาม pantip อีกแล้วจ้า พร้อมด้วยเทคนิคส่วนตัวของผู้เขียนที่เพิ่งผ่านประตูวิวาห์มาหมาดๆ ด้วยดีกรีความเชี่ยวชาญในฐานะ Fat Loss specialist และ Certified Personal Trainer ดังนั้นข้อมูลเหล่านี้เชื่อถือได้และพิสูจน์มาแล้วด้วยตัวเอง จะมีอะไรบ้างสำหรับ ดูแลผิว หน้าเรียวเพื่องานแต่ง เตรียมแชร์เก็บไว้ทำตามได้เลยค่ะ
ดูแลผิว หน้าเรียวเพื่องานแต่ง 6 เดือนก่อนวันแต่งงาน
เริ่มดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆได้เท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้นค่ะ แม้ว่าหลายคนจะดูแลผิวหน้าผิวตัวด้วยการทาครีมเป็นประจำอยู่แล้วแต่การเป็นเจ้าสาว ช่วงเตรียมงานแต่งหลังจากนี้หลายคนอาจจะต้องพบเจอความเครียด การนอนดึกและการทานอาหารไม่เป็นเวลา ดังนั้นหากเราบำรุงผิวมาดีจะส่งผลให้ผิวของเราไม่หมอง ขาดน้ำหรือสิวบุกได้เยอะเลยล่ะ ช่วงเวลา 6 เดือนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฟื้นฟูผิวและแก้ไขจุดบกพร่อง โดย
1. ทานวิตามิน(หรืออาหารที่มีวิตามิน) C, D, E, K เสริมเพื่อผิวแข็งแรงจากภายใน
การที่เราได้รับวิตามินผิวเพียงพอจะทำให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่ไม่สมบูรณ์และช่วยให้ผิวสุขภาพดีรวมทั้งดูอ่อนเยาว์ได้ด้วย โดยช่วยลด
- จุดด่างดำ
- รอยแดง
- รอยเหี่ยวย่น
- อาการผิวแห้งตึง
การทานวิตามินซี vitamin C ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีได้ และช่วยลดการที่เซลล์ผิวถูกทำร้าย ซ่อมแซมรอบแผลต่างๆได้ดีขึ้น นอกจากนี้ว vitamin C ยังช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ เพราะเป็นตัวสำคัญในร่างกายต่อการสังเคราะห์คอลลาเจนที่เพิ่มความกระชับยืดหยุ่นให้ผิวนั่นเอง เลือกทานอาหารที่มาจากธรรมชาติและวิตามินซีสูง ได้แก่ ฝรั่ง ส้ม บรอคโคลี ผักโขม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อาทิ สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ อาซาอิ เบอร์รี่ ที่ช่วยทำให้ผิวพรรณดูอ่อนวัยเพราะสารต้านแก่สีม่วงเข้มในอาซาอิที่ชื่อ แอนโธไซยานิน มากี้ เบอร์รี่ ที่บำรุงดวงตาให้ชุ่มชื้น ตาสวยใสสู้แสงแฟลชวันงาน แถมยังมีไฟเบอร์ช่วยเรื่องการขับถ่ายและกรดไขมันดีอีกเพียบให้ผิวเนียนนุ่มตลอดวัน
วิตามิน ดี vitamin D ได้จากแสงแดด เพียงให้ผิวของคุณได้รับแดดอ่อนๆยามเช้า 15 นาทีเมื่อผิวหนังได้รับแสงแดดคอเลสเตอรอลในร่างกายจะเปลี่ยนให้เป็นวิตามินดี Vitamin D ช่วยในเรื่องของโทนสีผิวที่สม่ำเสมอ ลดการอักเสบของผิว อาหารที่มีวิตามินดียังได้แก่ แซลมอน ทูน่า ปลาคอด
วิตามิน อี vitamin E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดป้องกันการเกิดจุดด่างดำและรอยเหี่ยวย่น ช่วยทำให้ผิวคงความชุ่มชื่นและลดการอักเสบของผิว อาหารที่มีวิตามินอีได้แก่ ถั่ว ธัญพืช อาทิ อัลมอนด์ เฮเซลนัท เมล็ดดอกทานตะวัน เป็นต้น
วิตามิน เค vitamin K ตัวนี้เน้นด้านเลือดฝาดเลยล่ะ ช่วยการไหลเวียนของเลือดรักษาบาดแผล ช่วยบรรเทารอยแตกลาย เส้นเลือดขอด รอยแผลเป็น จุดด่างดำ และรอยคล้ำรอบดวงตา อาหารที่มีวิตามินตัวนี้สูงได้แก่ ผักเคล ผักโขม ผักกาดหอม ผักกาดขาว ถั่วลันเตา เป็นต้น
2. ปรึกษาหมอผิวหนัง
ช่วงนี้เหมาะสมที่สุดหากคุณต้องการปรับแต่งจุดบกพร่อง หรือทำอะไรกับผิวแบบที่ต้องมี ผลัดเซลล์ เช่น ทำ AHA พวกทรีทเม้นท์ด้วยกรดผลไม้ให้สีผิวกระจ่างใส รวมทั้งกลุ่มการรักษาดูแลผิวด้วยเลเซอร์ เพื่อรักษาสิว ลบรอยสิว รักษาแผลเป็น เลเซอร์ IPL หน้าใส fine scan จัดไปในช่วงนี้เท่าที่คุณหมอแนะนำเลยค่ะ เพราะการทำเลเซอร์เป็นการใช้พลังงานแสงหรือความร้อนเข้าไปในเซลล์ผิวเพื่อทำลายเซลล์ที่เสื่อมสภาพกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทน ดังนั้น 6 เดือนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะในการให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ รอการบำรุงเพิ่มเติมในลำดับต่อไป
3. ดื่มน้ำให้มาก
สิ่งสำคัญมากๆที่ผิวจะโกลวได้คือ ความชุ่มชื้นนั่นเอง หากใครผิวหน้ามันซึ่งเป็นผลจากชั้นผิวหนังขาดน้ำเพราะดื่มน้ำน้อย ผิวเลยผลิตไขมันออกมามากเพื่อชดเชยส่วนนี้ เราแก้ผิวมันได้แต่เนิ่นๆตอนนี้เลยค่ะ เพราะหน้าจะสวยได้ในวันงานแม้ว่าจะจ้างเมคอัพอาร์ติสชื่อดัง ราคาแพงลิบลิ่ว แต่ถ้าคุณหน้ามันเยิ้ม หรือผิวแห้งแต่งหน้าได้ไม่ติดทนก็จบเห่ค่ะ ช่วงนี้แหละเป็นโอกาสดีที่คุณจะฝึกตัวเองให้ดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละสองลิตร เพื่อให้เซลล์ผิวอิ่มน้ำ ช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย ลดการเกิดสิวได้อีกด้วย
เทคนิคเล็กๆจากเราคือ ลองหาขวดน้ำแบบลิตรตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน หัวเตียง รวมกันให้ได้ 2 ลิตรและพยายามจิบหรือดื่มทุกครั้งที่คุณมีเวลาหรือหันไปเห็น ช่วงแรกๆอจจะลืมบ้างแต่ทำแบบนี้ไปหลายๆวันจะช่วยสร้างนิสัยการดื่มน้ำให้เพียงพอได้ในระยะยาว หรือจะลองโหลดแอพมาไว้ในมือถือเพื่อช่วยเตือนให้เราดื่มน้ำจนครบตามที่ตั้งใจไว้ก็ไม่เลวนะ เช่น Daily Water Tracker Reminder, Hydro Coach หรือ WaterMinder®
4. สรรหาสกินแคร์ที่เหมาะกับผิว
ใครว่าครีม โทนเนอร์ เจลล้างหน้า เซรั่มไหนที่ดีและอยากลองใช้ให้ลองได้เลย แต่ควรจดบันทึกว่าตัวไหนเวิร์คที่สุด ที่สำคัญคือต้องไม่ทำให้หน้าเราแพ้ สิวขึ้นหรือเห่ออย่างเด็ดขาด เพราะตัวที่เราลองแล้วเลือกมานี้เราจะต้องใช้ไปตลอดจนถึงวันแต่งงานเลยล่ะ เพราะยิ่งเข้าใกล้วันแต่งงานมาเท่าไหร่ ยิ่งไม่ควรอยากลองของใหม่อย่างเด็ดขาด เพราะหากหน้าคุณเห่อขึ้นมางานจะเข้าแล้วอาจจะต้องเครียดหนักกว่าเตรียมงานซะอีกค่ะ ในช่วงนี้จะต้องทากันแดดทุกวันทั้งใบหน้าและผิวตัว ก่อนนอนพยายามลบเครื่องสำอางและล้างหน้าให้สะอาดหมดจดที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อลดการเกิดสิวอุดตัน ใครที่อยากลดริ้วรอยลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี เรตินอล ดูค่ะแต่ต้องไม่อยู่ในช่วงตังครรภ์นะคะเพราะอันตรายแต่เด็กในครรภ์
3 เดือนก่อนวันแต่งงาน
1. เข้าคอร์สเจ้าสาว
อีก 1 ทางเลือกหากคุณมีเวลาและกำลังทรัพย์เพียงพอเพื่อเตรียมผิวก่อนเป็นเจ้าสาว คือ ลงคอร์สเจ้าสาว ส่วนที่ไหนดีนั้น เราแนะนำว่าที่เจ้าสาวให้เลือกเจ้าที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานคุณภาพสูง ทรีตเม้นท์หรือการดูแลต่างๆควรมีคำแนะนำโดยแพทย์ผู้เชียวชาญทุกครั้งก่อนเริ่ม อ่านรีวิวคอร์สแบบที่เราเล็งไว้ก่อนสัก 4-5 รีวิวที่มีภาพประกอบ เพื่อช่วยการตัดสินใจจะได้ไม่พลาดเสียทั้งเวลา และเงินในกระเป๋าค่ะ
สำหรับคอร์สที่แนะนำในช่วงเวลานี้ได้แก่ ยกกระชับเฟิร์มผิว ผลักวิตามิน ดริปวิตามินผิว IPLหน้าใส มาส์ก สครับหน้า สครับหลัง meso collagen ซึ่งโดยปกติในกลุ่มทรีตเมนต์สามารถเข้าไปทำได้ที่คลีนิกทุกอาทิตย์ หรือถ้าแบบที่มีเลเซอร์ ควรทำเว้นห่างมากกว่าคือ อาทิตย์เว้นอาทิตย์ เพื่อพักผิวให้ซ่อมแซมเซลล์ด้วยค่ะ ช่วงนี้ใครที่เล็งฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมร่องแก้ม หรือแก้ไขโครงหน้าบางจุด ก็สามารถทำได้ เพราะมีเวลาให้ฟิลเลอร์เข้าไปและอยู่ตัว เราก็จะได้คุ้นหน้าตัวเองไม่เคอะเขินเวลาเจอแขกหรือถ่ายรูปค่ะ
คำแนะนำสำหรับโบท็อซ์ Botox สำหรับใครที่อยากโบท็อกซ์สต๊าฟริ้วรอยไว้ด้วย botox ฉีดล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือนจะกำลังดี คือหน้าไม่บวมและไม่แข็งจนเกินไปและตัว โบท็อกเริ่มคลายตัวแล้ว แต่จะต้องหาหมอที่มีความชำนาญด้านนี้เป็นพิเศษเพราะคุณหมอที่เก่งๆจะสามารถคำนวนปริมาณ cc ที่จะฉีดต่อแต่ละบริเวณได้อย่างแม่นยำไม่ทำให้เรายิ้มแล้วตาดุ
แต่สำหรับผู้เขียนเลือกที่จะไม่ฉีดโบท็อกซ์เพราะช่างภาพเคยบอกไว้ว่า ฉีดแล้วจะแสดงสีหน้า ยิ้มแย้ม ซาบซึ้งไม่ธรรมชาติอยู่ดี เราอยากให้ภาพงานแต่งงานออกมาแสดงความรู้สึก อารมณ์ ความรักที่มีต่อกันอย่างธรรมชาติที่สุดเพราะภาพเหล่านี้จะอยู่กับเราไปจนตายค่ะ (เราจึงงดโบท็อกพวกริ้วรอยไปเลย แต่ก็อาจจะมีหมอมือเทพที่ทำให้ออกมาธรรมชาติมากก็ได้นะคะลองศึกษาดูก่อน)
2. คุมน้ำหนักด้วยการคุมอาหาร
ลาก่อย ขนมหวานทั้งหลาย ชานมไข่มุก น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว ของทอด เบเกอรี่ อาหารขยะ อาหารสำเร็จรูป น้ำตาล น้ำเชื่อม เพราะอาหารแปรรูปเหล่านี้กระตุ้นการเกิดสิวด้วย และยังมีแคลอรี่สูง เป็นศัตรูร้ายกาจของว่าที่เจ้าสาวในทุกด้านเลยจ้ะ หากพลั้งเผลอทานมากไปนอกจากจะทำให้ใส่ชุดแต่งงานสีขาวที่เราบรรจงเลือกสรรมาแล้วมีเนื้อปลิ้นเพละ เหนียงออกมาทักทายแขกแล้ว ยังทำให้ผิวไม่สวยสดใสและอาจมีสิวเห่อด้วยค่ะ ดังนั้นทางที่ดีควรจำกัดอาหารเหล่านี้ไปไว้สำหรับชีทแทน อาทิตย์ละครั้ง
ที่สำคัญควรเริ่มใส่ใจอาหารการกินให้ดียิ่งขึ้น เน้นอาหารสดใหม่ที่มาจากธรรมชาติ ออร์แกนิค ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทานผักให้มากขึ้นเพราะดีต่อสุขภาพ ระบบขับถ่ายและช่วยปรับสมดุลภายในร่างกายให้ดีขึ้นป้องกันอาการไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้
3. ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
หาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อย 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาทีเพื่อกระชับสัดส่วน สามารถเน้นออกกำลังกายเพื่อให้ใส่ชุดเจ้าสาวที่เลือกแล้วออกมาดูดีที่สุดด้วย เช่น หากชุดแต่งงานเป็นแบบเกาะอก ก็ควรเน้นสร้างกล้ามเนื้อไหล่และกระชับต้นแขน หาชุดเปิดหลังก็ควรออกท่าที่เสริมการสร้างกล้ามเนื้อหลัง โดยไม่จำเป็นต้องยกน้ำหนักมากเกินไป ให้ใช้น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังได้ท่าละ 12-15 ที เพื่อเน้นกระชับกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ และคาร์ดิโอสัก 20-30 นาทีเพื่อเบิร์นไขมัน ลีนร่างกายลงค่ะ
การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน เอ็นโดฟีน ช่วยให้รู้สึกแฮปปี้ กระปรี้กะเปร่า ไม่เหนื่อยง่าย เหงื่อที่ไหลยังช่วยชะล้างสิ่งตกค้างสารพิษออกจากรูขุมขน และเป็นการนำออกซิเจนสู่ผิวได้มากขึ้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่งอมชมพู มีออร่าได้อย่างชัดเจนขึ้นเลยล่ะ
2 เดือนก่อนวันแต่งงาน
1. สครับผิว
การสครับผิวไม่ควรทำทุกวัน แต่ในช่วง 2 เดือนก่อนหน้าที่เรามีการบำรุงผิวบ่อยขึ้น การสครับจะช่วยเคลียร์รูขุมขน เอาสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกินที่สะสมที่จะก่อให้เกิดสิวออกไปได้ ควรสครับแผ่นหลัง และผิวกายเบาๆ อาทิตย์ละครั้งเพื่อเตรียมให้ผิวได้ดูดซึมสกินแคร์หรือการบำรุงที่เราเสริมลงไปได้อย่างเต็มที่ แถมยังช่วยทำให้ผิวหมองๆหายไป ทั้งนี้ควรเลือกสครับที่ละเอียด อ่อนโยนจริงๆ แต่ถ้าหากใครสครับแล้วแพ้แนะนำว่าเลี่ยงไปจะดีกว่า
2. ยกกระชับผิวหน้าครั้งใหญ่
เทคนิคยกกระชับ ปรับหน้าเรียวระดับเทพๆไม่ต้องศัลยกรรม ในตลาดตอนนี้มีอยู่หลายตัวเลย ทั้งเทอร์มาจ-Thermage อัลเทอรา-Ulthera และไฮฟู่-HIFU สำหรับความแตกต่างแบบละเอียดของแต่ละอันสามารถอ่านได้จากเว็บไซต์ของคลินิกได้โดยตรงเลยค่ะ ส่วนตัวผู้เขียนเองเลือกทำ Thermage เพราะเป็นคนมีแก้มหรือแฟตเยอะ โครงหน้าเริ่มไปตามแรงโน้มถ่วง 555 ดังนั้นนอกจากยกกระชับแล้วเราอยากให้ไขมันตรงแก้มยุบ และหน้าเล็กลงสักนิด
เราเลือกทำ Thermage ที่ SLC Clinic หรือสยามเลเซอร์คลินิก เพราะว่าจากที่เราหาข้อมูลมา Thermage ที่นี่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด FLX และหัว tips ซึ่งเป็นหัวรุ่นใหม่ สามารถกระจายพลังงานได้ดีและลงลึกกว่ารุ่นเก่าใช้เวลาวั้นกว่าเดิม มีระบบสั่นรอบหลายทิศทางเจ็บน้อยลงและเห็นผลการรักษาที่ดี จึงช่วยยกกระชับผิวได้ดีสุดๆ เราเลือกสาขาทองหล่อและทำหน้ากับหมอตั้ม นพ. คริส อนันตกูล ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอมือฉมังเรื่องการดูแลปรับโครงหน้าให้เรียวได้รูป
รู้สึกโชคดีมากๆที่ได้หมอตั้มมาช่วยดูแล เพราะหมอเป็นคนละเอียดมากค่ะ เราไปทำหน้าหลายที่ที่อื่นๆบางที่แทบไม่มองหน้าเราแบบพิจารณาอะไรเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ค่าทำแบบยกกระชับเหล่านี้ราคาเป็นหลักหมื่น คุณหมอตั้ม พลิกหน้าเราซ้ายขวา จับก้ม จับเงย เล็งทุกองศาจริงๆ พร้อมบอกได้ทันทีเลยว่าควรจะทำทรีตเม้นต์หรือเลเซอร์จำพวกไหน ตามลำดับยังไง ส่วนถ้ามีงบจำกัดก็สามารถให้คุณหมอช่วยเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ให้ได้ตามที่เราคาดหวังตามกำลังงบ
ด้วยความที่หน้าเราไม่ค่อยสมมาตร ข้างขวาแก้มเยอะกว่าอีกข้าง เราก็เลยรีเควสบอกหมอไปว่าอยากให้ย้ำหน้าฝั่งขวาให้เล็กลงพอๆกับฝั่งซ้าย ซึ่งคุณหมอจะคำนวนให้ว่าจากแพคเกจ 900 ช็อตควรจะแบ่งทำหน้าฝั่งละกี่ช็อต และเผื่อเหนียงซึ่งเราขอให้ย้ำเป็นพิเศษอีกด้วย 555 โดยต้องมีการแปะยาชาก่อน ระหว่างทำช่วงแรกๆหัวที่ทำการยกกระชับจะอุ่นสบายๆ แล้วค่อยๆร้อนขึ้นเรื่อย ขอให้ทนไว้ค่ะ ท่องเข้าไว้อยากสวยย่อมต้องแลก แต่ว่าไม่ได้เลวร้ายเลย ไม่เจ็บสักนิด และให้คิดว่าเหมือนอบไอน้ำที่หน้าอยู่จะช่วยลดความวิตกไปได้
ผลที่ได้ก็ตามภาพเลยค่ะ พอใจมากๆช่วยลดความกังวลเรื่องหน้าไม่ได้รูปไปได้มาก รู้สึกมั่นใจมากขึ้น ผิวยกกระชับลื่นขึ้นด้วย กรอบหน้าชัด ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยบางๆลดลง ตาหายตก ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้มีคอลลาเจนที่สมบูรณ์ หลังทำก็เห็นผลทันทีและจะขึ้นมาพีคๆช่วง 2-3 เดือนช่วย ดูแลผิว หน้าเรียวเพื่องานแต่ง สามารถอยู่ได้นาน 1 – 2 ปี แน่นอนว่ากลับมาซ้ำทุกปีกับที่ SLC Clinic แน่นอนค่ะ
3. ฉีดสลายไขมันเหนียง กะเปาะแก้ม
แต่เดิมเราค่อนข้างกลัวการฉีดสลายแฟตเพราะเชื่อว่าถ้าไขมันข้างไหนหายเร็วไป หนังอาจจะย้อยลงมาได้ แต่ด้วยความที่ก่อนหน้างานแต่งประมาณ 8-9 เดือนเราก็อ้วนขึ้นมา และมีไขมันเกาะสะสมเยอะบริเวณเหนียงแ
ละกะเปาแก้ม แม้จะผอมลงแต่ดูทรงแล้วหน้าไม่น่าจะเล็กลงทันวันงานแต่ง จึงปรึกษาหมอตั้มท่านเดิม ซึ่งคุณหมอน่ารักมากค่ะ แนะนำว่ามี Meso fat สูตรพรีเมี่ยม ตัวล่าสุดของคลินิกที่ตอบโจทย์ตรงนี้เลย คือ สลายไขมันและกระชับผิวไม่ทำให้หนังที่หุ้มไขมันที่ถูกสลายไปมันหย่อนคล้อยลงมา
ตัวนี้เป็นทีเด็ดทีเดียวเลยล่ะ จากเดิมที่เราเป็นคนถ่ายรูปหันหากล้องด้านเดียว เพราะอายกะเปาะแก้มที่ไม่เท่ากัน ตอนนี้มั่นใจสุดๆเหมือนปมด้อยตรงนี้มันถูกสลายไปพร้อมไขมัน กลายเป็นคนมีกรอบหน้าเรียวงาม หน้าเด็กไปอีกขั้น สำหรับตัว Meso fat คุณหมอจะวงใบหน้ามาร์คจุดที่จะฉีดและปริมาณ cc ที่ใช้อย่างละเอียดซึ่งเราแนะนำเลยว่าไม่ต้องอายหมอแล้วค่ะ บอกไปเลยว่าอะไรที่กวนใจเรา เราอยากได้แบบไหน หน้าเรียวเลเวลไหนให้รีเควสตรงๆไปเลย
ตอนฉีดตัวยาเข้าไปจะรู้สึกแสบร้อนในบริเวณใต้ผิวหนังนั้น เหมือนเอาพริกไทยกับไฟร้อนๆไปย่างไขมัน >< แต่จงจิกหมอน จิกผ้าห่มไว้ค่ะ มันกำลังได้ผล ไขมันกำลังเซย์กู้ดบาย โดยข้อมูลจากคุณหมอบอกมาว่า หลังฉีดสลายไขมันภายใน 1 อาทิตย์ ไขมันพวกนี้จากที่เคยเกาะอยู่ตามใบหน้าจะเข้าไปอยู่ตามระบบของร่างกาย ดังนั้นไม่ควรไปตรวจร่างกายในช่วงนี้ ให้ดื่มน้ำเยอะๆ และออกกำลังกายเพื่อช่วยเบิร์นกำจัดมันออกไปซะ
ว่าที่เจ้าสาวที่สนใจคอร์สเจ้าสาว เน้นคอร์สหน้าเรียวลองติดต่อขอข้อมูลได้ที่ Siam Laser Clinic
โทร 02-7149555
Line : @slcclinic
4. โด๊ปอาหารผิวรัวๆ
ช่วง 2 เดือนสุดท้ายจะผ่านไปไวมากเลย อันนี้ขอเตือนว่าที่เจ้าสาวทุกท่านค่ะ เวลาเหมือนติดปีก ดังนั้นประมาทไม่ได้เด็ดขาดกับเรื่องอาหารการกินค่ะ เลี่ยงได้ควรเลี่ยงของหวาน ของทอด อาหารรสจัด อาหารแปรรูป ซอสปรุงรสโซเดียมสูงทั้งหลาย และทานอาหารที่มีวิตามิน สารอาหารดีๆเยอะๆช่วย สิ่งที่เราทำอย่างเคร่งครัดคือ ทานสมูทตี้ผักและเบอร์รี่ทุกเช้า ทานอาหารครบ 5 หมู่โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อย่างเมนู อาซาอิ โบลว์ เพื่อสุขภาพที่ดีต่อผิวเป็นที่สุด และยังทำง่ายมากๆด้วย
แค่นำ อาซาอิ เบอร์รี่ ปั่นกับกล้วยแช่แข็ง 1 ลูกเติมนมอัลมอนด์หรือนมถั่วเหลืองเล็กน้อย โรยหน้าด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่หลากสีช่วยบำรุงผิว เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดดอกทานตะวัน มะม่วงหรือผลไม้ตามชอบ เติมพลังงานและไมโครนิวเทรียนท์ดีๆจากธรรมชาติเข้าร่างกายช่วยฟื้นฟูร่างกายระดับเซลล์เลยทีเดียว
1 เดือนก่อนวันแต่งงาน
1. มาส์กหน้าอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
เตรียมมาส์กหน้าแบบแผ่นแบบทาทิ้งไว้หรือแบบลอกออกให้พร้อมค่ะ ช่วงเดือนนี้เราต้องทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นที่สุด หลังจากทำเลเซอร์ บำรุงผิวกันมาก่อนหน้า ช่วงนี้ให้ผิวได้พักและดื่มด่ำกับการบำรุงของเรา การมาส์กหน้าควรทำอย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้ง ควรใช้มาส์กที่เราไม่แพ้ การมาส์กหน้ายังช่วยให้เราได้ผ่อนคลาย ลองหายใจลึกๆขณะมาส์กหน้า ลดความเครียดจากความกดดันเรื่องการจัดงานลงและมีความสุขกับการเป็นว่าที่เจ้าสาวค่ะ
ข้อสำคัญมากๆ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนครีมบำรุงหน้า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผม ผิวกาย ทุกอย่างห้ามเปลี่ยนเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาความพยายามก่อนหน้าของเราจะสูญเปล่าได้
2. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
ทั้งผิวหน้า และผิวกายต้องการความชุ่มชื้นตลอดเวลา ใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตรที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย หรือใช้น้ำมันจากธรรมชาติอย่างน้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกนออยล์ลูปตัวบางๆ ข้อศอกหัวเข่า หรือบริเวณที่แห้งกร้าน ที่สำคัญพยายามเลี่ยงแดดแรง และทากันแดดทุกวัน
3. ยกกระชับใบหน้าโค้งสุดท้าย
ช่วงโค้งสุดท้ายนี้คอร์สเจ้าสาวของคุณยิ่งมีความสำคัญ อย่าพยายามลองอะไรใหม่ๆที่ไม่ชัวร์นะคะ หากทำอะไรก่อนหน้านี้แล้วเวิร์ค ถูกกับผิวคุณให้ทำต่อเนื่องจนถึงก่อนวันแต่งงานไปได้เลย สำหรับช่วงเดือนสุดท้าย เราแนะนำว่าให้หันมาเน้นทรีตเม้นต์กลุ่มยกกระชับใบหน้า ผลักวิตามิน เช่น ยกกระชับ RF หรือ Ultralift ซึ่งเป็นน้องๆของ Ulthera, HIFU อีกทีที่ให้ผลแบบรวดเร็วทันใจ แต่ด้วยความที่ค่าพลังงานน้อยกว่าผลลัพธ์อาจจะอยู่ไม่คงทนเท่ารุ่นพี่อย่าง Thermage หรือ HIFU
สำหรับเรา เราเลือกตัว Ultra lift 1500 ช็อตเพื่อเน้นกรอบหน้าให้ชัด กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ช่วยให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เน้นลดริ้วรอย ร่องแก้ม ฟื้นฟูปรับสุขภาพผิวให้ดีขึ้นอีก กระชับผิวลดเหนียง คางสองชั้นและยกผิวหนังรอบดวงตาและหน้าผาก
4. กำจัดขน
ตอนนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะจัดเลเซอร์กำจัดขน ทั้งขนรักแร้ หน้าแข้ง บิกินี่ เพราะชุดแต่งงานของคุณ ทั้งชุดแต่งงานแบบไทย หรือชุดแต่งงานแบบเจ้าสาวสีขาว มักโชว์แขน หรือต้องมีการตัดเค้ก โยนช่อดอกไม้ เต้น อาฟเตอร์ปาร์ตี้ การมีขนพลอมแลมใต้รักแร้ย่อมทำให้เรากังวลแน่นอน ครั้นจะโกนก็อาจจะขึ้นมาเป็นตอให้คันได้ ลองให้บริการแว็กซ์ขน หรือเลเซอร์ให้เกลี้ยงเกลาเลยดีกว่าค่ะ แถมคลินิกบางที่ยังมีเลเซอร์ช่วยทำให้บริเวณที่กำจัดขนออกไปเนียนใสขึ้นอีกด้วย
1 สัปดาห์ก่อนวันแต่งงาน
ช่วงนี้ขอให้คงการปรนนิบัติผิวและออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแอคทีฟ ไม่เหนื่อยง่ายในวันงาน ลดอาหารหวาน เค็ม มัน เผ็ด งดนม และผลิตภัณฑ์จากนมเนย เพราะอาหารเหล่านี้อาจจะทำให้ตัวบวมน้ำ หรือมีอาการท้องป่องได้ พยายามดูแลจิตใจของว่าที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวเองไม่ให้เครียดค่ะ (ถ้าเครียดผมร่วงจะเครียดหนักกว่าเดิมนะคะ ^ ^) ถึงตอนนี้งานทุกอย่างจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างให้นึกถึงวันที่ทั้งคู่จะมีความสุขสุดๆเข้าไว้ เพื่อให้จิตใจแจ่มใส สิ่งสำคัญของงานแต่งไม่ใช่ ความเพอร์เฟคของงานแต่งแต่คือ ความรักและกำลังใจจากกันและกันรวมทั้งครอบครัวและเพื่อนฝูงที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างหาก
คืนก่อนวันแต่งงาน
วันก่อนวันงานควรทานอาหารย่อยง่าย ไม่ทานอาหารรสจัด งดอาหารเค็มอย่างเด็ดขาดเพราะจะทำให้ตัวและหน้าบวมวันงานได้ ดื่มน้ำเยอะๆ ไม่ทานอาหารดึก ควรเว้นระยะ 3 ชั่วโมงหลังจากมื้อสุดท้ายถึงก่อนเข้านอน เจ้าสาวต้องนอนแต่หัววันเพื่อเตรียมแต่งหน้าตอนเช้า ดังนั้นธุระที่ต้องสะสางวันนี้ให้มอบหมายคนที่ไว้ใจได้อย่างคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนเจ้าสาวไปช่วยดูแลค่ะ ส่วนเรามีหน้าที่เดียวคือต้องสวย และมีความสุขที่สุดให้สมการรอคอยมาทั้งชีวิตค่ะ
ทิปเล็กๆน้อยๆจากเราคือ ลองขอบคุณและบอกรักว่าที่เจ้าบ่าวของคุณค่ะ ว่าคุณตัดสินใจเลือกที่จะใช้ชีวิตตลอดไปกับเค้าเพราะอะไร และขอบคุณที่เค้าอยู่เคียงข้างเราจนถึงวันนี้ และวันพรุ่งนี้ที่จะอยู่ดูแลกันตลอดไป จำไว้ว่าแม้วันงานอาจมีการผิดพลาดเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเจ้าบ่าว เจ้าสาวมีกันและกันเท่านั้นก็เพียงพอ
การขอบคุณหรือพูดถึงสิ่งดีๆแก่กันจะช่วยให้จิดใจเราอ่อนโยน สงบลง คลายเครียด และเตรียมพร้อมจับมือกันออกไปเริ่มต้นบทบาทชีวิตคู่ด้วยความคิดที่ดี และร่างกาย จิตใจที่สวยงามพร้อมสำหรับวันสำคัญที่สุดของคุณทั้งคู่!
สำหรับว่าที่เจ้าสาวท่านไหนลองทำตามแล้วเห็นผลหรือไม่
ทักมาคุยกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์หรือ กดติดตามกันได้ที่ Instagram: Neaulec
ISSA Nutritionist นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพองค์รวม Certified Health Coach พร้อมคุณวุฒิจาก Harvard Medical School ประกาศนียบัตรด้านการออกกำลังกาย หลงใหลศาสตร์แห่งการชะลอวัย รักการทำอาหารสุขภาพจากธรรมชาติให้อร่อยสุดๆ ชอบท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์และตั้งใจให้ความรู้ออนไลน์แบบไม่หวง