คาร์ดิโอ เล่นเวท ลดน้ำหนัก ลดไขมันได้ดีกว่ากัน workout exercise weight training cardio for weightloss

คาร์ดิโอ เล่นเวท หรือ HIIT อันไหนเหมาะกับเรามากที่สุด และเบิร์นไขมันได้ดีกว่า

พอพูดถึงเรื่องออกกำลังกาย คำว่า คาร์ดิโอ เล่นเวท ต้องผ่านสายตามาเป็นร้อยๆรอบ แต่สำหรับคนที่อยากลดไขมัน ให้หุ่นกระชับแถมไม่ค่อยมีเวลาด้วยแล้วจะทำแบบไหนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด คาร์ดิโอ กับเวทเทรนนิ่งคืออะไร คาร์ดิโอกับเวทเทรนนิ่งต่างกันอย่างไร

คาร์ดิโอ เล่นเวท หรือ HIIT เบิร์นไขมันได้ดีกว่า

บลอคนี้จะอธิบายให้กระจ่างจะได้รู้ว่าแบบไหนเหมาะกับการเบิร์นไขมันสร้างหุ่นเซี้ยะที่สุด การออกกำลังกายเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่าง มีสัดส่วนที่ลดลงพร้อมกล้ามเนื้อที่กระชับสวยได้รูป จะต้องทำการออกกำลังกายซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท มาให้รู้จักกัน

1. คาร์ดิโอ (Cardio workout)

การออกกำลังกายที่จะช่วยเผาผลาญพลังงานไขมันในร่างกายออกไป เป็นประเภทเดียวกันกับแอโรบิค แต่จะต่างกันตรงที่ความหนักในการเล่น ซึ่งคาร์ดิโอจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับความแรงเทียบกับอัตราการเต้นของหัวใจ คือ Light IntensityMedium IntensityHard Intensity และสุดท้ายก็คือ Maximum Intensity

แอโรบิค คือ การออกกำลังกายแบบทั่วไปที่ไม่เน้นความหนักมาก เล่นตามสภาพของร่างกายที่เล่นได้ แต่ทั้งสองชนิดก็มีประโยชน์ในการออกกำลังกายเช่นเดียวกัน แล้วแต่ความถนัดของใครว่าจะเลือกใช้แบบไหน อีกทั้งยังเป็นการดึงเอาออกซิเจนมาใช้ในการสันดาปพลังงาน หรือภาษาบ้านๆก็คือการเบิร์นนี่ล่ะ เหมือนกัน

หากไม่คิดอะไรให้มากนัก คาร์ดิโอและแอโรบิคก็คือการออกกำลังกายชนิดเดียวกันนั่นเองซึ่งการออกกำลังกายประเภทนี้ก็มีข้อดีคือ การช่วยเผาผลาญพลังงานไขมันและคาร์โบไฮเดรตออกไป ทำให้อาหารที่เรากินไม่เกิดการสะสมและแปรสภาพเป็นไขมันส่วนเกินที่จะถูกเก็บเอาไว้ในยามฉุกเฉินตามการเอาตัวรอดของร่างกาย

จนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมา อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหัวใจและปอด เพิ่มความอดทนและช่วยกระตุ้นระบบ ไหลเวียนเลือด และทำให้เหนื่อยได้น้อยลงด้วย ส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดผลที่ดีคือความชอบกิจกรรมนั้นๆ ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 45 – 60 นาที เลยทีเดียว 

ตารางแสดงความเข้มข้นของคาร์ดิโอ และประโยชน์ คาร์ดิโอ ลดไขมัน
ชาร์ทบอกประโยชน์ตามความเข้มข้นของการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ Credit image: JeffreySterlingMD.com

กิจกรรมที่เผาผลาญแคลอรีได้ดีที่สุดเรียงลำดับ (ทำอย่างต่อเนื่อง 60 นาที) ดูจากบลอคนี้

กรรเชียงเรือด้วยความเร็ว : 17.6กม./ชม. ได้ 970 kcal

มวยไทย : 800 kcal

กระโดดเชือก : 780 kcal

ขี่จักรยาน : 250-660 kcal

บาสเกตบอล : 360-660 kcal

ว่ายน้ำ : 585 kcal

ว่ายน้ำ คาร์ดิโอ swimming cardio workout
การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังที่เบิร์นแคลอรี่เยอะมาก เมื่อร่างกายทุกส่วนของคุณอยู่ในน้ำแล้วจะทำให้ทุกๆการขยับของเราเกิดแรงต้านอยู่ตลอดเวลา การว่ายน้ำไปกลับในสระจึงช่วยเพิ่ม heart rateได้เป็นอย่างดี

2. เวทเทรนนิ่ง (Weight training)

เป็นหนึ่งในรูปแบบการออกกำลังกายที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มสาวๆ แต่เนื่องจากในอดีตการออกกำลังกายชนิดนี้นิยมมากกว่าในกลุ่มนักเล่นกล้ามชาย ทำให้เราจำภาพแบบผิดๆ ว่าเวทเทรนนิ่งสำหรับสาวๆ ส่วนใหญ่ที่เมื่อออกแล้วจะทำให้ร่างกายใหญ่ บึกบึน มีกล้ามแขนกล้ามขาเป็นมัดๆ ซึ่งไม่ใช่ค่านิยมของผู้หญิงที่รูปร่างเล็กและผอมบาง 

ซึ่งนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด! ในความเป็นจริงแล้ว

การเวทเป็นการออกกำลังกายที่ “จำเป็น” สำหรับทุกคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ผู้หญิงจึงไม่ต้องไปกลัวว่ากล้ามเนื้อของตัวเองจะใหญ่เป็นมัดๆ เนื่องจากในผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศชายอยู่น้อย โอกาสที่มันจะสร้างกล้ามเนื้อได้ขนาดเป็นนักเพาะกายจึงต้องใช้ความพยายามและอดทนสูงเป็นอย่างมาก

ดังนั้น การเล่นเวทไม่ได้ทำให้แขนขาใหญ่ขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งข้อดีของมันเมื่อเล่นควบคู่กับคาร์ดิโอก็คือ จะช่วยทำให้ร่างกายมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น ต่างจากการเล่นคาร์ดิโอเพียงอย่างเดียว เช่น ในขณะที่เราวิ่งบนลู่วิ่ง ร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันมาใช้ แต่พอหยุดเล่นก็เท่ากับว่าหยุดการเผาผลาญในทันที ต่างจากการเล่นเวทหลังจากหยุดแล้วร่างกายก็จะยังสามารถเผาผลาญพลังงานต่อไปได้ แม้จะนั่งหรือนอนอยู่เฉย ๆ ก็ตาม

การเล่นเวทจะช่วยกระชับสัดส่วนของกล้ามเนื้อ ทำให้สาวๆ สามารถมีส่วนเว้าโค้ง มีรูปร่างเรียวเล็กและได้รูปอย่างมีสุขภาพดี ต่างจากคนที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีการกินยาลดความอ้วนหรือการอดอาหารเป็นอย่างมาก เวทเทรนนิ่งจึงเป็นตัวช่วยเสริมกล้ามเนื้อที่ดี และช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ควรจัดวางโปรแกรมให้เหมาะสมพัฒนากล้ามเนื้อหลายๆจุดเพื่อให้สมส่วน 

คาร์ดิโอ เล่นเวท เทรนนิ่ง เพิ่มอัตราการเผาผลาญ ระบบเมตาบอลิซึม
การยกเวทจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้มากยิ่งขึ้น ยิ่งมวลกล้ามเนื้อในร่างกายมีมากเท่าไรอัตราการเผาผลาญอาหารหรือแคลอรี่ของเราต่อวันจะมีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น คุณจะเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย แม้คุณจะอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรก็ตาม ผลการวิจัยพบว่า การเพิ่มน้ำหนักให้กล้ามเนื้อมากขึ้น 1.5 กิโลกรัม จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารให้เร็วขึ้น 7%

Weight training คือการออกกำลังกายที่ใช้น้ำหนักหรือแรงต้าน เช่น การยกน้ำหนักที่ให้เกิดการออกแรงจากกล้ามเนื้อ แต่การเล่น Body weight(น้ำหนักตัวของตัวเอง) ก็ถือว่าเป็น weight training ด้วยเช่นกันซึ่งก็เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ได้ไปยิม สามารถออกกำลังกายเองที่บ้าน

ประโยชน์ของการเล่นเวท Weight Training

  • ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ

การยกเวทจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้มากยิ่งขึ้น ยิ่งมวลกล้ามเนื้อในร่างกายมีมากเท่าไรอัตราการเผาผลาญอาหารหรือแคลอรี่ของเราต่อวันจะมีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น คุณจะเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย แม้คุณจะอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรก็ตาม ผลการวิจัยพบว่า การเพิ่มน้ำหนักให้กล้ามเนื้อมากขึ้น 1.5 กิโลกรัม จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารให้เร็วขึ้น 7%

  • เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก

การที่คนเราอายุมากขึ้นและไม่ค่อยออกกำลังกายจะนำไปสู่กระดูกที่ไม่แข็งแรงอาจมีการแตกหักได้ การออกกำลังกายโดยการยกน้ำหนัก(ไม่จำเป็นต้องหนักมากเหมือนนักเพาะกาย) สามารถช่วยเพิ่มมวลกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน

  • เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

การที่คนเรามีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น 1 กิโลกรัมจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้นประมาณ75-100แคลอรี่/วัน นั่นหมายความว่าคุณสามารถเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้นกว่าคนปกติ และการที่มวลกล้ามเนื้อมากขึ้นจะทำให้รูปร่างและสัดส่วนของคุณดูดียิ่งขึ้นอีกด้วย

  • ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ

– เพิ่ม HDL(ไขมันที่ดีต่อร่างกาย) และลด LDL(ไขมันที่ไม่ดี)ได้

– ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน : เพราะร่างกายสามารถจัดการกับกลูโคสได้ดีขึ้น และช่วยป้องกันการต้านทานอินซูลิน

– ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

– ช่วยเรื่องความดัน

– ลดระดับเอสโตรเจน estrogen ที่สูงเกินซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม

– ลดโอกาสเป็นโรคหวัดและโรคอื่นๆ

  • อารมณ์ดีขึ้น

หลายคนคงมองว่าทำไมคนออกกำลังกายถึงมีแต่รอยยิ้มแล้วหน้าตาดูสดใส เพราะการออกกำลังกายแบบ weight training จะช่วยกระตุ้นสาร endorphins ซึ่งจะทำให้รู้สึกดีขึ้นและลดความเครียด อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคซึมเศร้า และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นอีกด้วย

  • ช่วยลดไขมันสะสมในร่างกาย

การออกกำลังกายแบบ Weight training จะช่วยลดไขมันที่เกาะอยู่ตามช่องว่างต่างๆในร่างกายเช่นหน้าท้อง หน้าอก ซึ่งไขมันนี่แหละเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ

  • หุ่นดีขึ้น

แน่นอนล่ะ นี่อาจเป็นเป้าหมายหลักของการออกกำลังกายของใครหลายๆคน ไม่ว่าคุณจะต้องการเพิ่มน้ำหนักหรือลดน้ำหนัก การออกกำลังกายสามารถทำให้คุณหุ่นและบุคลิกภาพดีขึ้นกว่าก่อนอย่างแน่นอน และคุณรู้หรือไม่ว่า Weight training เป็นวิธีหนึ่งในการลดไขมันชั้นเยี่ยมเลยล่ะ

  • ป้องกันการบาดเจ็บ

การที่กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นจะสามารถป้องกันการบาดเจ็บต่างๆที่มีโอกาสเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ การฝึกแบบมีแรงต้านสามารถลดโอกาสที่จะล้มลงได้ถึง40% และทำให้การออกกำลังกายชนิดอื่นมีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น

  • ทำให้ชะลอความแก่ได้

การออกกำลังกายประเภท Weight training จะช่วยเสริมสร้าง Human Growth Hormone (HGH) ที่จะช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมของร่างกายได้ ตามปกติตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ฮอร์โมนดังกล่าวจะลดลงประมาณ 15% ทุก 10 ปี

การฝึกความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อจะช่วยให้ร่างกายหลั่ง HGH เข้าสู่กระแสเลือด จึงช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและเสริมสร้างการเติบโตของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้การทำ Intermittent Fasting ก็ช่วยเพิ่มการหลังของโกรทฮอร์โมนเช่นกัน

  • เสริมสร้างการทำงานของสมองให้ดียิ่งขึ้น

เพราะการออกกำลังกายแบบ Weight training จะทำให้เลือดสูบฉีดได้ดีขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ช่วยควบคุมการไหลเวียนของเลือดได้ดีกว่าการออกกำลังกายชนิดอื่น

ข้อสำคัญ ควรเติมโปรตีนหลังจากออกกำลังกาย

ปริมาณโปรตีนที่ได้รับหลังจากออกกำลังกายนั้นสำคัญต่อระดับการสังเคราะห์กล้ามเนื้อมาก โดยคำว่า “หลังออกกำลังกาย” นี้หมายถึงหลังออกกำลังไปตลอด 48 ชม ไม่ได้จำกัดที่มื้อแรกหลักออกกำลังกาย

เพิ่มโปรตีนพร้อมไฟเบอร์เพื่อให้การรักษารูปร่าง ลดน้ำหนักเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ด้วยน้ำตาลปริมาณน้อยมากๆๆ สร้างกล้ามเนื้อ ฟิตหุ่น หรือควบคุมน้ำหนัก ได้สะดวก รวดเร็ว และง่ายที่สุด กับ เควสบาร์ (Quest Bar) โปรตีนบาร์ (Protein Bar) รสคุ้กกี้ส์แอนด์ครีม แคลอรีต่ำ ไขมันต่ำ อร่อย หอม ทานง่ายได้สารอาหารครบแต่ไม่อ้วน ลดน้ำหนักอย่างมีความสุขกับ Health Platz

เพิ่มโปรตีนพร้อมไฟเบอร์เพื่อให้การรักษารูปร่าง ลดน้ำหนักเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ด้วยน้ำตาลปริมาณน้อยมากๆๆ สร้างกล้ามเนื้อ ฟิตหุ่น หรือควบคุมน้ำหนัก ได้สะดวก รวดเร็ว และง่ายที่สุด กับ เควสบาร์ (Quest Bar) โปรตีนบาร์ (Protein Bar) แคลอรีต่ำ ไขมันต่ำ อร่อย หอม ทานง่ายได้สารอาหารครบแต่ไม่อ้วน ขนมสำหรับคนไดเอท ลดน้ำหนักอย่างมีความสุขกับ Health Platz

เพิ่มโปรตีนพร้อมไฟเบอร์เพื่อให้การรักษารูปร่าง ลดน้ำหนักเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ด้วยน้ำตาลปริมาณน้อยมากๆๆ สร้างกล้ามเนื้อ ฟิตหุ่น หรือควบคุมน้ำหนัก ได้สะดวก รวดเร็ว และง่ายที่สุด กับ เควสบาร์ (Quest Bar) โปรตีนบาร์ (Protein Bar) แคลอรีต่ำ ไขมันต่ำ อร่อย หอม ทานง่ายได้สารอาหารครบแต่ไม่อ้วน ลดน้ำหนักอย่างมีความสุขกับ Health Platz

ปริมาณโปรตีนที่ได้รับหลังจากออกกำลังกายนั้นสำคัญต่อระดับการสังเคราะห์กล้ามเนื้อมาก โดยคำว่า “หลังออกกำลังกาย” นี้หมายถึงหลังออกกำลังไปตลอด 48 ชม ไม่ได้จำกัดที่มื้อแรกหลังออกกำลังกาย สำหรับมื้อหลังออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งนั้นก็มีข้อมูลแนะนำว่าควรได้รับอยู่ที่ 20-25 g ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนที่ดี  มื้อหลังออกกำลังกายทันทีอาจทานโปรตีน 20 g

โปรตีนบาร์คุณภาพดีจากเวย์โปรตีนที่แนะนำคือ ยี่ห้อเควส ที่มีโปรตีนสูงถึง 21 กรัม น้ำตาลต่ำไม่เกิน 2 กรัม ไฟเบอร์แน่นเลือกรสได้จากลิงค์นี้

3. HIIT หรือ High-Intensity Interval Training

HIIT สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้โดยใช้เวลาสั้น ให้ผลลัพธ์แบบเดียวกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในเวลาที่น้อยกว่า งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า มันอาจเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการยกน้ำหนักหรือคาร์ดิโอ โดยรวมแล้วมันให้ผลลัพธ์คล้ายกับการทำคาร์ดิโอในแง่ของการลดน้ำหนัก แต่ใช้เวลาในการออกกำลังกายที่น้อยกว่า

ซึ่งนักวิจัยพบว่า HIIT เผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าแบบอื่น 25-30% ซึ่งประโยชน์หลักของ HIIT คือการที่เราใช้เวลาในการออกกำลังกายน้อยลงเนื่องจากมีช่วงเวลาพักแทรกอยู่ระหว่างการออกกำลังกายอยู่แล้ว เริ่มต้นที่เพียง 15 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แปลว่าใน 24 ชั่วโมงหลังการออกกำลังแบบ HIIT ร่างกายจะเผาไขมันและใช้แคลอรี่ได้ต่อเนื่องมากกว่าหลังจากการวิ่่งแบบความเร็วคงที่

จากการศึกษาในปี 2011 ในงาน American College of Sports Medicine Annual Meeting การเทรนแบบ HIIT ในช่วงระยะเวลาแค่ 2 สัปดาห์ช่วยยกระดับความสามารถในการออกกำลังกายแบบแอโรบิกได้มากเทียบเท่ากับการเทรนฝึกความอึด (Endurance training) ถึง 6 to 8 สัปดาห์เลยทีเดียว

ความแตกต่างระหว่างคาร์ดิโอกับเวทเทรนนิ่ง เวท ก่อน หรือ คา ร์ ดิ โอ ก่อน

HIIT ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ช่วยเบิร์นไขมันจากไขมันที่กักเก็บไว้แต่ยังรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ HIIT ยังกระตุ้นการผลิตโกรทฮอร์โมน (human growth hormone: HGH) ได้มากขึ้นถึง 450% ในช่วง  24 ชั่วโมงหลังออกกำลังกายเสร็จสิ้น เจ้าฮอร์โมนนี้ไม่แค่ช่วยเรื่องเผาผลาญแคลอรี่ให้มากขึ้นแต่ยังช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ในร่างกาย ทำให้คุณดูเด็กไปยันระดับเซลล์เลยทีเดียว

จากการรวบรวมข้อมูลงานวิจัย สรุปได้ว่า

คาร์ดิโอเผาผลาญแคลอรี่มากกว่า

ปริมาณการเผาผลาญแคลอรี่ระหว่างการออกกำลังกายขึ้นอยู่กับขนาดของร่างกายและความเข้มข้นของการออกกำลังกาย โดยทั่วไปแล้ว การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าเวทเทรนนิ่งในระยะเวลาที่เท่ากัน กลุ่มที่คาร์ดิโออย่างเดียวพบว่ามีอัตราลดไขมันได้มากกว่ากลุ่มที่เวทเทรนนิ่งอย่างเดียว

เล่นเวท เทรนนิ่งช่วยให้เผาผลาญแคลอรี่ต่อวันได้มากกว่า

ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งจะไม่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้เทียบเท่ากับการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ แต่มันมีประโยชน์อย่างอื่นแทน เช่น เวทเทรนนิ่งจะมีช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อมากกว่า และกล้ามเนื้อจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าเนื้อเยื่ออื่นๆ

รวมไปถึงไขมันในขณะพัก เนื่องจากการสร้างกล้ามเนื้อเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญในขณะพัก โดยมีรายงานว่า อัตราการเผาผลาญในขณะพักสูงขึ้นเป็นเวลา 38 ชั่วโมงหลังจากเวทเทรนนิ่ง ในขณะที่ไม่พบลักษณะการเพิ่มขึ้นแบบเดียวกันหลังการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ

ต้องเล่นคาร์ดิโอควบคู่กับการเล่นเวทเทรนนิ่ง

การออกกำลังกายให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดคือการเล่นคาร์ดิโอควบคู่ไปกับการเล่นเวทเทรนนิ่ง เนื่องจากคาร์ดิโอคือตัวช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหัวใจและปอด เพิ่มความอดทนและช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ทำให้เหนื่อยได้น้อยลง

ส่วนเวทเทรนนิ่งจะช่วยในเรื่องการสร้างชั้นกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่และช่วยกำจัดไขมันออกไป แม้ว่าการออกกำลังกายด้วยการเวทเพียงอย่างเดียวจะช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อให้เพิ่มมากขึ้นและช่วยกำจัดไขมันออกไปได้ก็จริง แต่ก็มีข้อเสียคือร่างกายจะไม่ค่อยมีความอดทนต่อการออกกำลังกาย

ทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย ปอดและหัวใจไม่ถูกกระตุ้นให้แข็งแรงมากพอ ดังนั้นการออกกำลังกายที่ดีควรเล่นทั้งคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งควบคู่กันไป จึงจะช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพิ่มความกระชับของสัดส่วน และความอึดให้ร่างกายได้มากขึ้น

สำหรับคนที่ต้องการลดไขมันและน้ำหนักหลายคนอาจจะคิดว่าจุดประสงค์หลักนั้นคือการลดไขมันอย่างเดียว ไม่ได้ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อไปด้วยก็เลยตัดสินใจไม่ยุ่งกับการเวทเทรนนิ่งนั้นก็สามารถทำได้

กลุ่มที่ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งควบคู่กับการคาร์ดิโอนั้นพบว่าการลดไขมันและสัดส่วนเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ระยะเวลาเท่ากันลดได้มากกว่า, ลดไขมันและสัดส่วนได้เท่ากันในระยะเวลาสั้นกว่า ส่วนเรื่องกังวลว่าจะได้กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นนั้นจากข้อมูลพบว่าไม่ได้เพิ่มเยอะมาก

จะลดไขมันได้ดีที่สุดเมื่อออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ เล่นเวท เทรนนิ่งควบคู่กันไป และทำให้เห็นผลในการลดไขมันและสัดส่วนดีกว่า

คาร์ดิโอ เล่นเวท อันไหนก่อนหรือหลัง

หลายคนมีข้อสงสัยว่าควรเล่นอะไรก่อนอะไรหลัง ตามหลักมาตรฐานจากเหล่ากูรูฟิตเนสทั้งหลายจะแนะนำให้เริ่มที่เวทเทรนนิ่งก่อน เนื่องจากเป็นการใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อโดยตรง หลังจากเล่นแล้วจะทำให้กล้ามเนื้อหมดแรงและรู้สึกล้าได้ง่าย สรุปว่าการออกกำลังกายหลายแบบเป็นวิธีที่ดีที่สุด

การคาร์ดิโอสามารถลดมวลไขมันได้ดีกว่าเวทเทรนนิ่ง เมื่อเราออกกำลังกายมากกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์หากเราเลือกที่จะเล่นคาร์ดิโอก่อนยิ่งจะไปส่งผลทำให้กล้ามเนื้อหมดแรง การเล่นเวทตามมาจึงไม่เป็นไปตามแผนอย่างที่ควร สรุปแล้วเพื่อให้การออกกำลังกายได้ประสิทธิภาพสูงสุด จะต้องเริ่มที่เวทเทรนนิ่งก่อน จากนั้นพักด้วยการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อสัก 10 นาที แล้วค่อยต่อด้วยการคาร์ดิโอในลำดับถัดไป

อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มต้นเล่นเวทหรือคาร์ดิโอ จะต้องมีการวอร์มอัพร่างกายอย่างน้อย 10-15 นาทีก่อนเสมอ และหลังจากสิ้นสุดการคาร์ดิโอเป็นลำดับสุดท้ายแล้วจะต้องทำการคลายกล้ามเนื้อเพื่อช่วยลดอาการเจ็บและอักเสบด้วย เพื่อทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นและกลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

โปรแกรมออกกำลังกายตัวอย่างที่รวม คาร์ดิโอ เล่นเวท

โปรแกรมออกกำลังกายตัวอย่างนี้ จะเน้นไปที่การสร้างกล้ามเนื้อควบคู่กับการลดไขมันไปพร้อม ๆ กันจะได้ไม่เสียเวลา และโปรแกรมนี้พิเศษมาก ๆ สำหรับคนที่มีเวลาน้อย เพียงใช้เวลา 1 ชั่วโมง และอีก 30 นาทีโดยประมาณในการออกกำลังกายในแต่ละวัน เพียง 3 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น เพียง 1 ชั่วโมงนิด ๆ คิดเป็น 4% หน่อย ๆ ของเวลาที่เรามีต่อวันเท่านั้นเอง

เหมาะสำหรับ : ผู้เริ่มต้น และระดับกลาง
อุปกรณ์ในการฝึก : ดัมเบล
จำนวนท่า/จำนวนเซตและครั้งในการฝึก : จำนวน 6-7 ท่าต่อวัน ฝึกท่าละ 3 ยก ๆ ละ 12 ครั้ง
การทำคาร์ดิโอ : ทำคาร์ดิโอหลังเวท 35 นาทีทุกวันที่ฝึก
ความถี่ในการฝึก : 3 วันต่อสัปดาห์
ความต่อเนื่องของโปรแกรม : 12 สัปดาห์
ผู้จัดโปรแกรม : โค้ชโชค

ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกโปรแกรมนี้ : โปรแกรมเวทเทรนนิ่ง 3 วันต่อสัปดาห์นี้ จะเน้นไปที่มัดกล้ามเนื้อชิ้นใหญ่เป็นหลัก โดยเฉพาะอก หลัง และขา ซึ่งผู้ฝึกจะได้เริ่มต้นการสร้างกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ และลดไขมันในแต่ละวันฝึกด้วยการทำคาร์ดิโอ เพียง 35 นาทีต่อวันเท่านั้น เมื่อฝึกตามโปรแกรมจนครบกำหนด ผู้ฝึกจะมีรูปร่างที่สมส่วน มีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น และมวลไขมันลดลง ระบบการเผาผลาญจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

โปรแกรมลดไขมันหน้าท้อง

โปรแกรมเวทเทรนนิ่งนี้ จะแบ่งการฝึกออกเป็น 3 วัน ดังนี้ 

วันจันทร์ฝึก Chest , Triceps ท่าฝึกละ 3 เซต ๆ ละ 12 ครั้ง
Dumbbell Chest Press Upper  – 3 x 12 reps
Dumbbell Chest Press  – 3 x 12 reps
Dumbell Pull Over  – 3 x 12 reps
Dumbbell Fly  – 3 x 12 reps
Overhead Dumbbell Extension  – 3 x 12 reps
Chair Dips  – 3 x 12 reps
Dumbbell Kickback  – 3 x 12 reps
หลังเวททำคาร์ดิโอเพิ่ม 35 นาที

วันพุธฝึก Back , Biceps , Abs ท่าฝึกละ 3 เซต ๆ ละ 12 ครั้ง
One Arm Rows  – 3 x 12 reps
Bent Over Rows  – 3 x 12 reps
Upright Rows  – 3 x 12 reps
Deadlift  – 3 x 12 reps
Concentration Curls  – 3 x 12 reps
Hammer Curls  – 3 x 12 reps
Crunch  – 3 x 12 reps
Side Crunch  – 3 x 12 reps
หลังเวททำคาร์ดิโอเพิ่ม 35 นาที

วันศุกร์ฝึก Legs , Abs ท่าฝึกละ 3 เซต ๆ ละ 12 ครั้ง
Body Squats  – 3 x 12 reps
Dumbbell Lunges  – 3 x 12 reps
Back Lunges  – 3 x 12 reps
Front Lunges  – 3 x 12 reps
Dumbbell Squats  – 3 x 12 reps
Leg Drops  – 3 x 12 reps
Mountain Climbers – 3 x 12 reps
หลังเวททำคาร์ดิโอเพิ่ม 25-35 นาที

Cover image credit: James Haskell Health and Fitness

ขอบคุณข้อมูลจาก dooddot Friendwhey Planforfit Fitschool