ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าสาวด้วยนะคะ คุณก้าวมาถึงอีกช่วงชีวิตที่สำคัญมากๆ หนึ่งในไฮไลท์ในงานแต่งงานก็ต้องเป็น ชุดแต่งงาน หรือ ชุดเจ้าสาวนี่แหละค่ะ หลายคนรอคอยมาทั้งชีวิตเพื่อโมเม้นต์ที่วาดฝันไว้ ชุดแต่งงานหากเลือกได้ดีเหมาะกับตัวเจ้าสาวแล้ว จะช่วยขับออร่าให้พุ่งออกมา เสริมความสวยงามของงานให้เจิดจรัสประทับใจแขกผู้ร่วมงานและที่สำคัญคือเจ้าบ่าวของคุณไปหลายสิบปีเลยล่ะ เรามีเทคนิคช่วยเลือกชุดแต่งงานที่ใช่สำหรับคุณมาบอกเตรียมเซฟไว้ได้เลย
เตรียมหาชุดแต่งงานที่ใช่ด้วย เทคนิคเหล่านี้
เคล็ดลับเหล่านี้บอกเล่าจากประสบการณ์ตรงของมาดามเองเลยนะ
หากคุณกำลังเริ่มจะเครียดกับการเตรียมงานแต่ง ขอให้หาช่วงเวลา สงบๆ หรือนั่งฟังเพลงชิลๆแล้วจินตนาการถึงวันสำคัญนี้ ให้นึกถึงความสุขขนาดมหึมาที่คุณและว่าที่เจ้าบ่าวกำลังจะได้รับ เคล็ดลับแรก คือ ก่อนจะจัดงานแต่ง คุณต้องรู้สึกมีความสุขและสนุกกับมันก่อนนะคะ อย่าเอาความกดดันเข้ามานำทาง วันนั้นคือวันของเราจะได้ทำในสิ่งที่เราฝันไว้ ชุดแต่งงานจึงต้องบ่งบอกถึงบุคลิก ตัวตนของเจ้าสาวให้มากที่สุด ไม่ต้องสนใจแฟชั่นมากเท่ากับความรู้สึกของเราเอง
1.เผื่อเวลาไว้ก่อนอย่างน้อย 6 เดือน
โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการชุดแบบตัดใหม่ทั้งหมดกว่าจะได้สรุปแบบ จนขึ้นโครงชุด เลือกผ้าแพทเทิร์นลูกไม้หรือการปัก บอกเลยว่า 6 เดือนอาจมีลุ้นค่ะ ยิ่งถ้าแต่งช่วงพีคปลายปีแล้วด้วยต้องเผื่อเวลาไว้หน่อยจะดีกว่า แต่ถ้าให้เราแนะนำ เลือกเช่าชุดที่มีไว้แล้วกับห้องเสื้อที่เก่งๆ เค้าสามารถปรับแก้ได้ตามรูปร่างของเราจนเนี้ยบเหมือนตัดใหม่ได้เลย แถมประหยัดงบไปเกินครึ่งแน่นอน
2.กำหนดงบประมาณไว้คร่าวๆ
ชุดแต่งงาน หากไม่ได้เตรียมส่งต่อให้ลูกหลาน หนทางที่จะประหยัดงบได้มากคือ เช่าชุดที่ตัดออกมาเรียบร้อยแล้ว สาวๆตัวเล็กก็จะได้เปรียบเพราะแก้ชุดให้เล็กลงเป็นเรื่องง่ายกว่าขยายไซส์ ซึ่งหากอยากได้ตามใจเรามากที่สุดเลือกแบบตัดเช่าได้เช่นกัน โดยแบบนี้ห้องเสื้อจะจัดทำชุดออกมาเพื่อสัดส่วนของเราโดยเฉพาะแต่หลังเสร็จงานร้านจะถือกรรมสิทธิ์ในชุดนั้นไป ซึ่งแบบนี้ก็เหมือนทางเลือกตรงกลางระหว่างตัดใหม่เลยซึ่งราคาตกหลายหมื่นปลายๆจนเกินแสนบาท ก้บเช่าที่เริ่มต้นหลักพันจนถึงหลายหมื่น
3. หาร้านที่มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือหรือมีผลงานจริงให้ดู
ไม่ควรเสี่ยงอย่างยิ่งกับการออเดอร์ชุดออนไลน์หรือตกลงกับร้านทางออนไลน์ที่ไม่มีหน้าร้าน เพราะชุดแต่งงาน คุณต้องลองแล้วลองอีกจนมั่นใจเท่านั้น ภาพที่เห็นบนนางแบบกับตัวคุณมันไม่เหมือนกันเสมอไป ที่สำคัญมากคือ ความสามารถในการแก้ชุดของร้านต้องเนี๊ยบมากๆ เพราะหากชุดเกิดไม่พอดี มีรอยตำหนิเพียงเล็กน้อยก็จะส่งผลให้เจ้าสาวขาดความมั่นใจ พาลเอางานทั้งงานออกมาไม่สมใจได้เลยทีเดียว
สำหรับร้านที่เราไว้ใจเรื่องของดีไซน์ ที่สวยประณีต และมีแบบให้เลือกตั้งแต่เจ้าหญิง ชุดแต่งงานทางการ ชุดแต่งงานสำหรับพิธีริมชายหาด หรือปาร์ตี้ ไม่เป็นทางการเราแนะนำร้าน Mirror Mirror Bangkok ซึ่งเรามีประสบการณ์ตรงใช้ชุดจากร้านนี้และประทับใจกับทุกๆอย่างเรียกได้ว่า ความฝันเป็นจริงเลย ซึ่งส่วนนี้จะลงรายละเอียดเพิ่มเติมให้ข้างล่าง แต่ใครสนใจแนะนำติดต่อโดยตรงกับทางร้าน เค้ามีดีไซน์เนอร์และช่างตัดเย็บประจำคอยให้คำแนะนำได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาไปมาหลายรอบ
4. ไม่ต้องกังวลเรื่องหุ่นให้มากนัก ชุดเจ้าสาวมีที่เหมาะกับเราเสมอ
ในขณะที่หลายๆเพจแนะนำให้เลือกแบบตามหุ่นของเจ้าสาวเป็นหลัก แต่เชื่อมั้ยว่าคุณมีทั้งรองเท้าส้นสูง แต่งหน้าทำผมเครื่องประดับจัดเต็มช่วยบังจุดด้อย หรือเน้นจุดเด่นได้ค่ะ อย่ากังวลจนเกินไปจนถึงกับลดความอ้วนขนานหนัก
เพียงฟิตหุ่นไว้ให้เฟิร์มเตรียมพร้อมวันที่ต้องยืน เต้น ทำพิธีต่างๆให้เรายังสดชื่น มีความสุขสุดๆจะดีกว่า หากแขนเราใหญ่จริงๆลองเลือกแบบมีแขนซีทรูที่มีลวดลายลูกไม้ไว้ช่วยประคองทรงแขนของเรา หรือหากเราตัวเล็กไม่สูงนัก ทรงบอลกาวน์แบบเจ้าหญิงอาจใส่แล้วทำให้เราดูตัน ลองหาชุดเจ้าสาวทรง a-line ซึ่งก็จะลุคดูหวานใกล้เคียงกัน แถมยังเพิ่มหรือลดสุ่มด้านในให้เหมาะกับตัวเองและลักษณะงานได้อีก ร้านที่มืออาชีพจริงๆเค้าจะมีสุ่ม ซับในหรือถุงมือ ผ้าคลุมหลายๆแบบให้เราลองแมทช์
5. ลอง ลอง ลองและเปิดใจลองหลายๆแบบ
ชุดหลายๆชุดมากที่ตรงสเปคเราดูสวยบนนางแบบ แต่มันอาจจะไม่เข้ากับว่าที่เจ้าสาวเลยก็ได้ เช่น ทรงเมอร์เมดเราใส่แล้วกลายเป็นทรงตรงซะงั้นเพราะสะโพกไม่สะบึมพอ หรือ เลื่อมที่ปักตรงกับข้อพับใส่แล้วเคลื่อนไหวไม่สะดวกเลย ดังนั้นนอกจากเรื่องความสวย ความเหมาะของชุดแล้วยังต้องดูการใช้งานด้วยว่าเราเดินสะดวกมั้ย ลองลุกนั่งไม่อึดอัด หายใจคล่อง ไม่มีเสียงชุดเสียดสีกัน หรือเรามีพิธีแบบไหนถ้าต้องเทไวน์แดง แบบที่แขนกรุยกรายอาจลำบากเกินไป ร้านที่มืออาชีพเค้าจะยินดีให้คุณลองหลายๆแบบตามที่ต้องการ แต่บางร้านอาจคิดค่าลองตามจำนวนครั้งก็ได้
ที่สำคัญเลย มารยาทการลองชุดแต่งงาน ไม่ควรทางลิปติกสีสด หรือทำเครื่องสำอางค์เลอะชุดของร้าน หรือนำขนมเครื่องดื่มเข้าไปนั่งกินค่ะ
6. ถ่ายรูปชุดที่เข้าตาไว้หลายๆมุม
เพราะวันจริงคุณต้องถ่ายรูปเยอะอยู่แล้ว จะได้รู้ว่ามุมไหนชุดจะดูออกมาเป็นยังไง หาท่าโพสต์ให้เหมาะกับชุด รวมทั้งเป็นการโน้ตไว้ว่าต้องให้ช่างแก้ในจุดไหนบ้าง หรือเราควรฟิตหุ่นตรงจุดไหนเป็นพิเศษ เช่น แผ่นหลัง หัวไหล่ นอกจากนี้ยังเก็บเอาไว้เทียบกับเครื่องประดับที่จะใส่ด้วยกันในงาน หากชุดพร้อมรับกลับในวันนั้นก็พกเครื่องประดับจริงมาลอง พร้อมกับเกล้าผมคร่าวๆตามที่มีไอเดียไว้ ส่วนใหญ่แล้วทางร้านที่น่ารักๆจะยินดีถ่ายรูปจัดชุดให้คุณอยู่แล้ว แต่ถ้ามีคนสนิทของเราไปด้วยก็น่าจะดีกว่า ลองชวนคุณแม่ พี่สาวน้องสาวหรือเพื่อนๆไปช่วยเลือกชุดกับคุณดูสิ
ISSA Nutritionist นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพองค์รวม Certified Health Coach พร้อมคุณวุฒิจาก Harvard Medical School ประกาศนียบัตรด้านการออกกำลังกาย หลงใหลศาสตร์แห่งการชะลอวัย รักการทำอาหารสุขภาพจากธรรมชาติให้อร่อยสุดๆ ชอบท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์และตั้งใจให้ความรู้ออนไลน์แบบไม่หวง